"ก.ล.ต." ถก "แบงก์ชาติ" ผุด "บาทสเตเบิ้ลคอยน์" แก้กฎหมายเสร็จไตรมาส 2/68

     นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเล​ขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาระบบนิเวศหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (Digital Securities Ecosystem) ของตลาดทุนไทย ปัจจุบัน ก.ล.ต.อยู่ระหว่างแก้กฎหมายและออกประกาศกฎหมายลูกขึ้นมารองรับ คาดแล้วเสร็จภายในไม่เกินไตรมาส 2/2568 

     ก.ล.ต. เตรียมหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาให้สามารถนำ “บาทแบ็คสเตเบิ้ลคอยน์” (Baht-backed Stablecoin) ไปใช้ในระบบนิเวศหลักทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงพัฒนาระบบบล็อกเชนกลางที่จะเชื่อมต่อระบบนิเวศหลักทรัพย์ดิจิทัลทั้งระบบให้ทุกคนสามารถเข้ามาใช้ได้ด้วย ก.ล.ต.ต้องหารือทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) และสถาบันการเงิน (แบงก์) เพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่ในการสนับสนุนและพัฒนาร่วมกันต่อไป เพื่อนำเทคโนโลยี มาใช้สนับสนุน ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพตลาดทุนไทย

     การแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ เพื่อสนับสนุนการออกหลักทรัพย์ดิจิทัลนั้นสามารถทำได้ทุกหลักทรัพย์ ทั้ง หุ้นและตราสารหนี้ แต่คาดว่าน่าจะเริ่มนำมาใช้ในการออก “หุ้นกู้” ก่อน ทั้งรูปแบบ Twin ซึ่งเป็นการออกหุ้นกู้แบบดั้งเดิมควบคู่กับการออกหุ้นกู้ดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่อง และให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสในการลงทุนมากขึ้น และเมื่อผู้ประกอบการ มีความพร้อมและผู้ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปสู่การซื้อขายหุันกู้ดิจิทัลมากขึ้นที่เป็น Native ตั้งแต่เริ่มต้นและมีโอกาสที่จะนำไปใช้ในหลักทรัพย์อื่นๆเช่นหุ้นด้วยเช่นกัน

“เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในตลาดทุนไทย มองว่า คงไม่ใช่เป็นการดิสรัปตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียงแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทย ต้องเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน สร้างประโยชน์ต่อผู้ร่วมตลาดและประชาชนในยุคดิจิทัล สอดรับกับกระแสด้านความยั่งยืน รวมถึงเป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวให้แก่ประชาชน”

     สำหรับ Digitalization Securities Ecosystem ตามแนวคิดของ ก.ล.ต. ดังนี้

     1. กระบวนการดิจิทัล 100% end-to-end process และ ช่วยให้ระดมทุนและลงทุนได้รวดเร็ว ลดต้นทุน โปร่งใส

     2. ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ลงทุนพัฒนาระบบตนเองได้ เอื้อการแข่งขันเพื่อสร้าง บริการและนวัตกรรมใหม่ ๆ

     3. กำหนดมาตรฐานแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามเครือข่ายเชื่อมโยงระบบหลากหลายเข้าด้วยกัน

     4. ผลักดัน Shared Services และโครงสร้างพื้นฐานกลาง เพื่อลดต้นทุนพัฒนาระบบผู้ประกอบการรายเล็ก

     5. เข้าถึงผลิตภัณฑ์ / บริการตลาดทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้ตราสาร illiquid หรือมี มูลค่าสูง (high price barrier)

     เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2567ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.มีมติเห็นชอบ โดยการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2568-2570 อยู่ภายใต้กรอบและกระบวนการที่พิจารณาครอบคลุมปัจจัยต่างๆในทุกมิติสำคัญ เพื่อส่งเสริมให้การกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ควบคู่กับการรักษาสมดุลทั้งด้านการกำกับดูแลและด้านการพัฒนาตลาดทุนไทยในทุกมิติ

     สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มุ่งเน้นในการบรรลุเป้าหมายหลัก 4 ด้าน ดังนี้

     1. “ตลาดทุนมีความน่าเชื่อถือ” (Trust & Confidence)

     2. “ตลาดทุนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่เศรษฐกิจดิจิทัล” (Digital Technology)

     3. “ตลาดทุนเป็นกลไกไปสู่ความยั่งยืน” (Sustainable Capital Market)

     4. “ผู้ลงทุนมีสุขภาพทางการเงินที่ดี” (Financial well-being)

     ทั้งนี้ ก.ล.ต. กำหนดให้มีแผนองค์กรซึ่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมศักยภาพในการดำเนินงานตามพันธกิจของ ก.ล.ต. (SEC Excellence) เพื่อผลักดันภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์และบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.