คลัง เร่งอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดันจีดีพีไทย ปี68 โตกว่า 3%
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายในปลายเดือนต.ค. หรือต้นเดือนพ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธาน จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนมาตรการเศรษฐกิจ ที่จะทยอยออมาในช่วงปลายปีนี้ เพื่อเกิดความต่อเนื่องของแรงส่งของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านเงินดิจิทัล วอลเล็ตด้วย
โดยหนึ่งในมาตการที่เตรียมจะเสนอคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณา คือ มาตรการเที่ยวไทยไปต่อ ซึ่งเป็นชื่อเบื้องต้น โดยหลักการจะให้ประชาชน และบริษัท ห้างร้าน สามารถนำรายจ่ายจากการท่องเที่ยว จัดประชุม สัมมนา ในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สามารถมาหักลดหย่อนภาษีได้ เบื้องต้นเสนอไว้ 2 เท่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และดึงกำลังซื้อให้กลับไปในพื้นที่ดังกล่าว โดยหากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบ ก็จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ จะมีการเสนอ ครม. พิจารณาขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล สำหรับประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ตามประกาศของ ปภ. รวมถึงจะมีการเสนอมาตรการภาษีสำหรับการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และยานพาหนะ สำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ค่าซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมอาคาร หรือทรัพย์สินที่ติดตั้งกับตัวอาคารที่อยู่ในที่ดินมาหักลดหย่อนภาษีได้ ส่วนรายละเอียดขอให้รอการพิจารณาของ ครม. อีกครั้ง เพราะเรื่องมาตรการด้านภาษีคงพูดกันก่อนไม่ได้ เนื่องจากจะมีผลต่อจิตวิทยา คนจะอั้นการใช้จ่ายรอ
สำหรับโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านเงินดิจิทัล วอลเล็ตนั้น รัฐบาลการันตรีว่ามีแน่นอน ส่วนงบประมาณเพื่อใช้ในโครงการยืนยันว่ามีรองรับไว้แล้ว 1.87 แสนล้านบาท โดยยืนยันว่าเต็มจำนวน 10,000 บาทเท่ากับเฟส1 อย่างครบถ้วน ส่วนจะแบ่งจ่ายหรือจ่ายก้อนเดียวเลย หรือรูปแบบการโอนจะเป็นอย่างไร และจ่ายให้ช่วงไหน ต้องรอให้คณะกรรมการฯพิจารณากันก่อน หลังจากนั้นจะมีการชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง
ในส่วนที่มีข้อเสนอจากภาคเอกชน รวมถึงมีเสียงเรียกร้องของประชาชนอยากให้โครงการคนละครึ่งให้กลับอีกครั้ง ในส่วนของรัฐบาล ไม่ได้ปิดกั้น พร้อมได้รับข้อเสนอทั้งหมดมาพิจารณา
“ข้อเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่เหมาะสม ทำได้ เราก็พิจาณาไม่ติดขัดอะไร แม้เป็นโครงการของรัฐบาลในอดีต เราไม่ได้ยึดติดกับเรื่องศักดิ์ศรี เพราะยึดของประเทศเป็นหลัก”
ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่า จากมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3% ส่วนปี 2568 เราก็อยากเห็นเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้มากกว่า 3%ต่อปี เพราะแรงส่งจากมาตรการทั้งหมดที่ออกไปแล้ว รวมถึงการเดินนักดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งนายพิชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้เข้าไปดูแลในเรื่องสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.