ส่อเค้า รัฐบาลแพทองธาร ล่มแจกเงินดิจิทัล
“ส่อเค้าล่ม!” ไม่ได้ไปต่อหรือไม่ สำหรับการโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส2 สำหรับกลุ่มคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ที่ล่าสุดมียอดคนไทยลงทะเบียนสำเร็จแล้วกว่า 32 ล้านคน หลังวันนี้(13ก.ย.67) นายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ออกมายอมรับชัดเจนว่า แจกเงินเฟส2 ไม่ทันภายในปี 2567 เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด และรัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาโยกงบประมาณที่เหลือไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในจุดที่ยังอ่อนแอ เพื่อสร้างความเข็มแข็งให้กับประเทศ หรือนำงบประมาณไปลงทุนในเรื่องสำคัญและเร่งด่วนก่อน
คำพูดของนายพิชัย เป็นการส่งสัญญาชัดเจนว่า รัฐบาลอาจตัดสินใจยกเลิกแจกเงินในเฟสที่ 2 แต่ยังคงแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.5 ล้านราย และผู้พิการ 1 ล้านราย ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และหลายฝ่ายได้แนะนำไว้หรือไม่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลยืนยันเสียงแข็งมาตลอดว่า จะแจกให้กับคนไทย 45 ล้านคนอย่างแน่นอน และไม่กี่วันมานี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ออกมาประกาศว่า ให้กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน เตรียมตัวไปลงทะเบียนผ่าน 3 แบงก์ของรัฐ คือ ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส.และธอส.ได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.นี้ หลังที่ปิดรับลงทะเบียนของกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน 15 ก.ย.2567
แต่เพียงชั่วข้ามคืน สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ ก็ได้ข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูงว่า รัฐบาลได้ให้ 3 แบงก์รัฐ เลื่อนการเปิดรับลงทะเบียนธนาคารสาขาทั่วประเทศ 16 ก.ย.นี้ ออกไปก่อน โดยไม่ได้แจ้งรายละเอียดและเหตุผล สอดรับกับวันรุ่งขึ้น(13ก.ย.67) นายพิชัยก็ ประกาศแจกเงินเฟส2 ไม่ทันปีนี้ทันที นอกจากนี้ยังมี คีย์เวิร์ด ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กล่าวชี้แจงในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ อ้างว่าประชาชนอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหายเสพติดมากกว่าที่จะได้เงินจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ตามด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ออกมาสำทับในประเด็นเดียวกัน พร้อมปัดตอบถึงความชัดเจนการแจกเงินในเฟส2
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อตรวจสอบความคืบหน้าโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบการชำระเงิน ล่าสุดของ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรือ DGA พบว่า โครงการดังกล่าว ถูกประกาศยกเลิก เรียบร้อยแล้ว โดย ก่อนหน้านี้ DGA มีการเผยแพร่ราคากลางงานจ้างพัฒนาระบบแพลตฟอร์มการชำระเงิน (Payment Platform) วงเงิน 95 ล้านบาท สำหรับโครงการดิจิทัล วอล พบว่า มี 3 บริษัท ที่สนใจเข้าร่วมเสนอทำโครงการ ได้แก่ บริษัท เพย์โซลูชั่น จำกัด,บริษัท เอสซีบี เทคเอกซ์ จำกัด และ บริษัท เอ็นทีที (ประเทศไทย) จำกัด ประเด็นเหล่านี้ ยิ่งตอกย้ำสัญญาล่มเฟส2 ให้ภาพชัดมากขึ้น
หากย้อนไปจุดเริ่มต้นของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย เริ่มต้นตั้งแต่ต้นปี 2567 ถือเป็นโครงการที่มีความลุ่มๆดอน กลับลำไปมา มาโดยตลอด ตั้งแต่งบประมาณในการดำเนินการ ที่เริ่มยืนเป้าหมายที่ 50 ล้านคน วงเงิน 5 แสนล้านบาท เป็นการออกพ.ร.บ.เงินกู้จำนวน 5 แสนล้าน แทนการใช้งบประมาณปกติ
จากนั้นรัฐบาลก็กลับลำไม่กู้เงิน เปลี่ยนมาเป็นใช้งบประมาณ ธ.ก.ส.ผสมงบปกติแทน แต่วงเงินยังคงเดิม 5 แสนล้านบาท และครั้งที่ 3 กลับลำหันมาให้งบประมาณปกติแทนการใช้เงินธ.ก.ส. แต่ครั้งนี้ปรับลดขนาดวงเงินเหลือ 4.5 แสนล้านบาท โดยจะใช้เงินจากงบประมาณปี 2567 และงบประมาณปี 2568 เพื่อแจกให้กับ 45 ล้านคน แบ่งเป็นงบฯปี 2567 ทั้งตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 4.3 หมื่นล้านบาท และซึ่งตามแผนเดิม งบประมาณปี 2568 วงเงิน 152,700 ล้านบาท และการบริหารจัดการงบประมาณอีก 132,300 ล้านบาท
หากห่วงเวลานี้รัฐบาลจะแปรสภาพจากโครงการเงินดิจิทัล เป็นแจกเงินสดให้เฉพาะกลุ่มเปราะบาง และโยกงบประมาณปี 2568 เล่นแร่แปรธาตุไปใช้เพื่อการลงทุน ทางกฎหมายก็เชื่อว่าสามารถทำได้ เพราะรัฐบาลอาจพูดได้ว่า การใช้งบประมาณส่วนนี้ไปใช้ในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานก็ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน ส่วนโครงการแจกเงินส่วนที่เหลือ ตามที่ให้ไว้กับคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. สุดท้ายหากรัฐบาลจะเดินหน้าทำโครงการฯ ก็ยังสามารถทำได้ โดยการตั้งงบประมาณใหม่ในปีถัดไปมาใช้ทำโครงการ เพราะรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ยังมีเวลา อีก 3 ปี
ทั้งนี้ ในด้านกฎหมาย รัฐบาลต้องศึกษาให้ชัดเจนแล้วว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ เพื่อไม่สร้างความเสี่ยงต่อตัวรัฐบาล หรือตัวน.ส.แพรทองธารเอง แต่ในเชิงความเสี่ยงด้านเชื่อมั่นต่อพรรครัฐบาล ย่อมลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นเพราะนโยบายที่ออกมาไม่ตรงปก ตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน และถึงขณะนี้จากสัญญาณต่างๆที่รัฐบาลแพทองธารส่งออกมา ส่อเค้าชัดเจนว่า โครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลฯ ยากที่จะเป็นไปได้ ส่วนรัฐบาลจะหาทางแปรนโยบายเพื่อสร้างคะแนนนิยมในลักษณะโครงการอื่นใดหรือไม่ ยังคงต้องติดตามต่อไป
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.