25 หุ้น ESG เกรด A - ราคาร่วงแรงเข้าตา "กองทุน TESG ใหม่"
"กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund)" หรือ "กองทุน TESG" ถูกหยิบมาเป็นประเด็นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่า "ไม่ธรรมดา" เพราะสามารถพลิกฟื้นตลาดหุ้นไทยกลับมาบวกได้ในทันที
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ?
สิ่งสำคัญนั่นก็คือ "กองทุน TESG" ตัวใหม่มีคุณสมบัติที่โดนใจนักลงทุนตรงที่ ข้อแรกคือคลังขยายวงเงิน ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินและซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท จากเดิมไม่เกิน 100,000 บาท
ข้อสอง ลดระยะเวลาการถือครองเหลือเพียง 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ จากก่อนหน้านี้ต้องถือครอง 8 ปี
สุดท้ายคือ ขยายนโยบายลงทุนมากกว่า 80% มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม(NAV) โดยเน้นหุ้นใน SET และ mai โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) และ บรรษัทภิบาล (Governance) ที่เปิดเผยข้อมูลตามกำหนด
ไทม์ไลน์จากนี้คือ กระทรวงการคลังจะนำกองทุน TESG เสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาอนุมัติไม่เกิน 2 สัปดาห์ จากนั้น ก.ล.ต. , ตลท. และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FECTO)ร่วมหารือเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์คัดหุ้นไทยเข้าธีมกองทุน TESG พร้อมคาดเปิดเสนอขายกองทุนใหม่นี้ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ เบื้องต้น ก.ล.ต.คาดว่าจะมีหุ้นเข้ามาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 200 หุ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 128 หุ้น รวมไม่ต่ำกว่า 300 หุ้น คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG มากกว่า 30,000 ล้านบาท แม้อาจจะกระทบรายได้ภาษีราว 13,000 ล้านบาทแต่ได้ในส่วนของฐานภาษีที่เปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุนจากนักลงทุนที่คาดหวังทางผลประโยชน์ทางภาษี และนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
"จังหวะ" ที่ใช่ . . ใน "เวลา" ที่ใช่
ฝ่ายวิเคราะห์สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า การจัดตั้งกองทุน TESG ใหม่ มาในเวลาที่เหมาะสมได้พอดี เพราะ ณ SET INDEX ตรงนี้ มี VALUATION ที่น่าสนใจมาก หลังดัชนีเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมี P/E เพียง 14.3 เท่า, PBV 1.22 เท่า และ DIVIDEND YIELD 3.5% น่าจะจูงใจให้เม็ดเงินไหลเข้ามาในกองทุน THAIESG ใหม่และตลาดหุ้นได้มากขึ้นในช่วงนี้
ด้วยระยะเวลาการถือครองเพียง 5 ปี สั้นกว่ากองทุนประหยัดภาษีทั้งหมด และกระจายตัวซื้อในเวลาไหนของปีก็ได้ถือว่าดีกว่า LTF ที่ถือครอง 7 ปีปฏิทินมาก เพราะช่วยแก้ปัญหาเม็ดเงินไม่จำเป็นต้องไปกระจุกตัวซื้อกันในช่วงเดือน ธ.ค. เหมือน LTF ในอดีต ที่แรงซื้อเกือบ 45% อยู่ในเดือนนี้และแรงซื้อกว่า 65% กระจุกตัวเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปี และอาจจะช่วงพยุงตลาดในช่วยเวลาหุ้นตกหนักได้ดี
ขณะที่เม็ดเงินที่เคยไหลออกไปกองทุนต่างประเทศ หลัง LTF หมดไปกว่า 1 แสนล้านบาทอาจจะไหลกลับเข้ามาบ้าง ตั้งแต่กองทุน LTF หมด สิทธิในการลดหย่อนภาษีในปี 2020 มีกองทุนต่างประเทศ (FIF) เพิ่มขึ้นจาก 743 กองทุน เป็น 1,174 กองทุน หรือเพิ่มขึ้นมากว่า 431 กองทุน หนุนให้มีเม็ดเงินสลับไปซื้อจน AUM เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนล้านบาท แต่หลังจาก THAIESG ใหม่ พร้อมกับหุ้นย่อตัวลงมา ก็อาจจะหนุนให้เม็ดเงินดังกล่าวสลับเข้ามาซื้อได้บ้าง
รวมถึงคาดหวังว่าเม็ดเงินจาก THAIESG ใหม่ ไหลกลับเข้ามาหนุนตลาดหุ้น 6-7 หมื่นล้านบาท และหนุนให้กองทุนลดสถานะเงินสดและซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นในพอร์ตช่วงเวลาที่เหลือของปี ในปีนี้สถาบันฯ ซื้อสุทธิหุ้นไทยน้อยมากเพียง 4.8 พันล้านบาท (YTD) เท่านั้น ทำให้ปัจจุบันมีการถือเงินสดอยู่ในระดับหนึ่งและบางกองทุนถือเงินสดถึงเกือบ 10% เลยที่เดียว
ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าประเด็นนี้น่าจะหนุนให้กองทุนเพิ่มเงินในพอร์ต สร้าง WINDOW DRESSING ช่วงกลางปี และยังรอรับเม็ดเงินจากกองทุน THAIESG เข้ามาสมทบเรื่อยๆประเมินมีโอกาสใกล้เคียงกับเม็ดเงินจากกองทุน LTF ที่ 6-7 หมื่นล้านบาทต่อปี และเม็ดเงินทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท มักหนุนให้ SET ขยับขึ้นได้ 1–2%
GULF นำทีมหุ้นน้ำหนัก ESG สูง
บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี คาดว่าฐานเม็ดเงินที่เข้าสู่กองทุน ThaiESG รอบนี้ จะสูงราว 7.8 หมื่นล้านบาทต่อปี ขณะที่ SET ณ ปัจจุบัน ยังอยู่ใน Value Zone น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเชิงบวกตลาดหุ้นไทยนับจากนี้
โดยรวม KSS ประเมินเป็น “บวก” ต่อตลาดหุ้นไทยคล้ายสมัยมาตรการลดหย่อนภาษีผ่านกองทุน LTF ในอดีต เนื่องจากเป็นการเสริมสภาพคล่องของเงินลงทุนระยะยาวในประเทศให้กลับมาแข็งแรงขึ้น
กลยุทธ์แนะลงทุน "หุ้นใน SETESG" ที่มีคุณสมบัติราคาลงแรงกว่า SET -6.6%YTD ได้แก่ BTS, SCC, CRC, IVL, PTTGC, CPN, BBL, HMPRO และ กลุ่มที่มีน้ำหนัก (Weight) ใน ESG สูง ได้แก่ GULF, AOT, MTC, CPALL, GPSC
โผหุ้นใหญ่เกรด A น่าสะสม
บทวิเคราะห์ บล.พาย ระบุเช่นกันว่าจากกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ , ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง ได้ร่วมกันแถลงนโยบายกระตุ้นตลาดทุนด้วยการนำกองทุน TESG มาปรับเงื่อนไขใหม่ โดยปรับลดระยะเวลาถือครองลงเหลือ 5 ปีจากเดิม 8 ปี พร้อมเพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีเป็น 3 แสนบาท จากเดิม 1 แสนบาท โดยทาง ก.ล.ต. คาดการณ์เม็ดเงินใน TESG ตัวใหม่จะระดมทุนได้ราว 3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมศึกษากองทุนรูปแบบอื่นเช่นกองทุนวายุภักษ์
จากกรณีดังกล่าว มองบวกกับหุ้นขนาดใหญ่ที่มีคะแนน ESG ระดับ A ขึ้นไป (จากการให้คะแนนของตลาดหลักทรัพย์) ส่วนหุ้น ESG ระดับคะแนน A ขึ้นไปที่ยังปรับขึ้นน้อยในช่วง YTD ได้แก่ BRI, COM7, AH, SAT, AP, IVL, LH, HMPRO, BJC, BCH, BGRIM, CRC
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.