มาถูกทาง! "PTT" ยึดหลัก "ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก" หนุน ESG ยั่งยืน

     นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บมจ. ปตท. (PTT) กล่าวในงาน SUSTAINABILITY FORUM 2024 จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ หัวข้อ Special Talk : PTT Synergy for Sustainability ว่า ปตท.มีหลายสถานภาพ ทั้งเป็นรัฐวิสาหกิจ และบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ต้องแข่งขัน ไม่ใช่เสือนอนกิน 

     ปัจจุบันทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน ปตท.ได้นำแนวคิด ESG แทรกเข้าไปตั้งแต่กลยุทธ์ แผนปฎิบัติการ รวมถึงเป้าหมายธุรกิจ การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่าภาคพลังงานปล่อยคาร์บอน 70% ปตท.อยู่ในกลุ่มดังกล่าวจึงต้องให้ความสำคัญ และการเติบโตนับจากนี้ต้องหาธุรกิจใหม่และก้าวออกไปทำธุรกิจนอกประเทศ

     สำหรับการดำเนินงานด้าน ESG นั้น ยอมรับว่า Mindset สำคัญมาก ซึ่ง ปตท.บริหารงานเป็นกลุ่ม แปลงร่างมาจากการปิโตรเลียมแห่งชาติ ปี 2544 และปตท.ถือหุ้นบริษัทในกลุ่มโดยตรง 36 บริษัท และมีบริษัทที่แตกลูกออกมาอีก 450 บริษัท รวมพนักงานกว่า 4 หมื่นคน การบริหารองค์กรที่ซับซ้อนต้องบริหารด้วยความรอบคอบ จึงต้องทำความเข้าใจกับพนักงานให้มีแนวคิดเดียวกัน 

     ทั้งนี้ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเป้าหมาย Net Zero แบบมีเงื่อนไขในปีค.ศ. 2065 คือต้องมีบริษัทที่แข็งแรงสนับสนุน ดังนั้น กลุ่ม ปตท.จึงต้องกำหนดเป้าหมาย Net Zero ให้เร็วกว่าและที่ผ่านมาถือว่าทำได้ 

     อย่างไรก็ดี ปตท. กำหนดแนวทางการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก คือ 1. Pursuit of Lower Emissions (การปรับ) โดยปรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด อาทิ การปรับเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาใช้เงินไปแล้วเป็นหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะโรงแยกแก๊ส เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนแล้วนำมาใช้ประโยชน์ด้วยเทคโนโลยี CCUS โดย ปตท.สผ. อาจเกิดธุรกิจใหม่และเป็นโอกาสในอนาคต

     2. Portfolio Transformation (การเปลี่ยน) โดยการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดและธุรกิจใหม่ อาทิ เปลี่ยนปิโตรเคมิคัลเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าสูง หรือจากการใช้แก๊สฯ น้ำมันมาเป็นโซลาร์ ลม ที่ดำเนินการทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงอุตวสหกรรมยา และยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เป็นต้น 

     3. Partnership with Nature and Society (การปลูก) การเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศด้วยวิธีทางธรรมชาติผ่านการปลูกและบำรุงรักษาป่าไม้ รวมถึงพื้นที่สีเขียวต่างๆ ทั่วประเทศ โดยปลูกมาแล้ว 1 ล้านไร่ และจะปลูกเพิ่มอีก 2 ล้านไร่ รวมเป็น 3 ล้านไร่

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.