“GFC” ลูกค้าเข้ารับคำปรึกษา-รอมีบุตรแน่น หนุนทัพผลงานทั้งปี
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC เปิดเผยว่า ช่วงโค้งสุดท้ายปี 2566 จนถึงปี 2567 ภาพรวมของอุตสาหกรรมกลุ่มผู้รักษามีบุตรยากในไทยที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายเร่งผลักดันให้การส่งเสริมการมีบุตรเป็น “วาระแห่งชาติ”เพื่อแก้ปัญหาอัตราการเกิดใหม่ที่ลดลง
รวมถึงรัฐบาลส่งเสริมยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ซึ่งช่วยผลักดันให้ ดีมานด์ลูกค้าที่จะเข้ารับการรักษาการมีบุตรยากกับทาง GFC มีแนวโน้มทยอยพุ่งสูงขึ้น ประกอบกับคนไทย ในปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ตอกย้ำการขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม แผนการเปิดให้บริการในโครงการสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และคลินิกสาขาอุบลราชธานีนั้น ยังคงเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 1/2567 หรือต้นไตรมาส 2/2567 และจะเป็นการขยายพื้นที่การให้บริการของกลุ่มบริษัท ได้อย่างครอบคลุมพื้นที่ที่มีศักยภาพทั่วประเทศมากขึ้น
โดยโครงการสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 จะเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ สู่การยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น อาทิ การเปิดรับลูกค้าต่างประเทศ ห้องวิจัยและห้องปฏิบัติการสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ห้องประชุมสัมมนาวิชาการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอบรมนักเทคนิคการแพทย์ภายในของกลุ่มบริษัท (In-house training)เพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่สาขาอุบลราชธานี เป็นโซนที่มีจำนวนผู้เข้ารับการรักษาสูงไม่ต่างจากกรุงเทพฯ ทำให้ GFC เข้าไปลงทุนเพื่อขยายฐานการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากในพื้นดังกล่าว และในจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว และกัมพูชา ฯลฯ ซึ่งทั้ง 2 สาขา นอกจากจะเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าชาวไทยแล้ว ยังเป็นการสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้เพิ่มขึ้นด้วย ประกอบกับสาขาพระราม 3 ที่มีศักยภาพความแข็งแกร่งสำหรับรองรับการให้บริการอยู่แล้ว ยิ่งส่งผลให้อัตราการเติบโตของกลุ่มบริษัททั้ง 3 สาขา เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก้าวสู่ New S-Curve ที่จะสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคตให้กับGFC
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 ( มกราคม – กันยายน ) เติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งนี้เป็นผลจากการขับเคลื่อนธุรกิจ ในการเพิ่มศักยภาพการให้บริการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ารับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก ทั้งการเพิ่มจำนวนแพทย์สำหรับรองรับคนไข้ที่เข้ารับการรักษาการจัดเตรียมห้องบริการคนไข้ในช่วงเวลาเข้ามารับบริการจัดตารางคิวเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้คนไข้ระหว่างเข้ารับบริการ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น แสดงถึงศักยภาพความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากแบบครบวงจรในประเทศไทย
จากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของ GFC งวด 9 เดือนแรกปี 2566 โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้รวมจากการให้บริการ 254.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.04 ล้านบาท คิดเป็น 28% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 54.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.46 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13% (YoY) ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุด (ออลไทม์ไฮ) เป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เปิดดำเนินการ ทั้งนี้เนื่องมาจากกลุ่มบริษัทมีการส่งเสริมการขายและทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ฟื้นตัว จึงทำให้จำนวนลูกค้าที่เข้ามารับบริการรักษาผู้มีบุตรยากมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ผลการดำเนินการไตรมาส 3/2566 (กรกฎาคม-กันยายน 2566) บริษัทฯ มีรายได้รวม 87.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.88 ล้านบาท คิดเป็น 13% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 20.59 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯก็ประสบความสำเร็จในการกำไรสู่ระดับทำนิวไฮในไตรมาสดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งตอกย้ำการป็นหุ้น Growth Stock ของ GFC
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.