สิ้น ก.ย.66 คลัง ไฟเขียว ตั้งพิโกไฟแนนซ์แล้ว 1,129 ราย

นายพรชัย  ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ความสำคัญของการจัดการเรื่องหนี้นอกระบบโดยถือเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมถึงรับภาระหนี้ที่เกินกว่าเงินต้นเป็นจำนวนมาก อนุมัติสินเชื่อให้ประชาชนเป็นวงเงินรวม 3.5 หมื่นล้านบาท
  

ปัจจุบันกระทรวงการคลังได้ดำเนินการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้กับประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม รวมถึงการแก้ไขและจัดให้มีแนวทางป้องกันปัญหาหนี้นอกระบบในเวลาเดียวกัน โดยได้อนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) วงเงินไม่เกินรายละ 50,000 - 100,000 บาทต่อราย ซึ่งเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ย กำไรจากการให้สินเชื่อ ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอื่นใด รวมกันแล้วสูงสุดไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี แบบลดต้นลดดอก 

 

ทั้งนี้ ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 มีจำนวนนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,129 ราย กระจายอยู่ทุกภาคใน 75 จังหวัด (ยกเว้นจังหวัดอ่างทองและจังหวัดสิงห์บุรี) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (631 ราย) รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง (207 ราย) ภาคเหนือ (152 ราย) ภาคตะวันออก (79 ราย) และภาคใต้ (60 ราย) ตามลำดับ 

 

โดย ณ เดือนสิงหาคม 2566 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 3,695,932 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 35,590.70 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ประชาชนผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการ ได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th

 

 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยปัจจุบัน กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างแก้ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่อง สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ) เพื่อให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนมากขึ้น สามารถช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ทางการเงิน หนี้นอกระบบ การคำนวณอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 และเตือนภัยการเงินนอกระบบแก่ประชาชน เช่น เตือนภัยไม่ให้หลงเชื่อ SMS หลอกลวงและแอปพลิเคชันปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหด เตือนภัยพฤติกรรมการชักชวนลงทุนและการกู้ยืมเงินที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ ภายใต้พระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 เป็นต้น ผ่านทางเว็บไซต์ www.1359.go.th 
 

สำหรับประชาชนที่มีหนี้นอกระบบสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ณ จุดให้คำปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบ ของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามได้ที่ สายด่วนของธนาคารออมสิน โทร. 1155 และ สายด่วนของธ.ก.ส. โทร. 0 2555 0555 นอกจากนี้ สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือโดยตรงจากหน่วยงานของภาครัฐผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599 ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม โทร. 0 2575 3344 และศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.