15 กิจกรรมที่คุณต้องลองทำ เมื่อออกเดินทางตามลำพัง
“การเที่ยวคนเดียว” กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการก้าวข้ามความไม่คุ้นเคยของตัวเองที่จะต้องเดินทางตามลำพัง ในด้านหนึ่ง มันคือการเดินทา่งที่คุณจะได้พบกับความอิสระที่แท้จริง คิดเองตัดสินใจเองไม่มีใครขัดใครค้าน แต่ในอีกด้านหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือมันก็แอบโดดเดี่ยวอยู่เหมือนกัน สถานการณ์ที่คุณเจอตรงหน้า ไม่ว่าจะสุขหรือจะทุกข์ ยิ้มกว้างหรือร้องไห้ คุณจะต้องผ่านประสบการณ์พวกนั้นไปโดยลำพัง ไม่มีใครที่คุณจะร่วมแชร์ประสบการณ์และความรู้สึก ณ ขณะนั้นได้ จนกว่าคุณจะเล่าให้เพื่อนฟังภายหลัง
ถึงอย่างนั้น ประสบการณ์การเดินทางคนเดียวก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร หากคุณไปถามใครต่อใครที่เขาเคยเป็นนักเดินทางที่ชอบเดินทางไปไหนมาไหนตัวคนเดียว คุณจะได้คำตอบกลับมาคล้าย ๆ กันว่าเหมือนประสบความสำเร็จไปอีกขั้นในการท้าทายตัวเอง และช่วงเวลานั้นก็รู้สึกเหมือนยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกเลยทีเดียวเชียว มีข้อดีมากมายที่รอคุณอยู่สำหรับการเดินทางคนเดียว ส่วนข้อเสียมักจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยเสียมากกว่า ซึ่งถ้าคุณทำการบ้านก่อนเดินทาง วางแผนเป็นอย่างดีและไม่ประมาท คุณก็จะไม่เสี่ยงอันตรายใด ๆ
บางครั้งอิสระอย่างเต็มที่ในการเดินทางคนเดียวอาจฟังดูน่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเป็นคนประเภทที่ไม่ชอบเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและการแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่มีแผนล่วงหน้า อย่างไรก็ดี คุณไม่ควรพลาดที่จะลองทำ 15 กิจกรรมนี้ด้วยตัวคนเดียวระหว่างที่คุณเดินทางตามลำพัง กิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นจุดประสงค์ของการเดินทางคนเดียว เพื่อยกระดับประสบการณ์การเที่ยวของคุณ และเพื่อค้นพบอะไรบางอย่างที่มีแค่ตัวคุณเองเท่านั้นที่รู้ว่าคืออะไร เราบอกได้แต่เพียงว่า ทุก ๆ ที่ที่คุณไป ทุกกิจกรรมที่คุณทำ หากมันเป็นสิ่งที่คุณต้องการ คุณจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นการเสียเวลาเปล่า
1. ไปนั่งกินมื้อค่ำที่ร้านอาหาร
อุตส่าห์ไปเที่ยวต่างที่ต่างถิ่นทั้งที อย่าเอาแต่กินอาหารสำเร็จรูปหรือซื้ออาหารปรุงสำเร็จจากข้างนอกเข้ามานั่งกินเงียบ ๆ เหงา ๆ คนเดียวในที่พักเลย มันไม่สนุกหรอก ทำอะไรที่มันท้าทายกว่านั้นดีกว่า การออกไปนั่งร้านอาหารคนเดียวไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องเขินอาย มีคนอีกครึ่งค่อนโลกที่นั่งกินข้าวที่ร้านอาหารคนเดียวแบบที่คุณกำลังจะทำ หลาย ๆ ร้านมีที่นั่งประเภทบาร์สำหรับต้อนรับลูกค้าที่มาคนเดียวด้วย ฉะนั้น จงให้รางวัลตัวเองด้วยการไปเพลิดเพลินกับมื้อค่ำเลิศรส ณ ร้านอาหารที่คุณปักหมุดทำการบ้านมาล่วงหน้าแล้ว โดยไม่ต้องสนใจสายตาใคร
2. ออกไปนั่งมองวิถีชีวิตของผู้คน
นานทีปีหนที่คุณจะได้ลางานยาว ๆ มาเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ที่คุณไม่คุ้นเคย อย่าพลาดกิจกรรมออกไปนั่งมองวิถีชีวิตของผู้คนว่าคนท้องถิ่นเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร มันอาจจะไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่แปลกประหลาด แต่เชื่อเถอะว่าคุณไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้หรอกทั้งที่กิจวัตรของตัวคุณเองก็เป็นแบบนั้น ดังนั้น การนั่งในร้านอาหารที่โต๊ะอยู่ริมหน้าต่างหรือทางเท้า การไปนั่งเล่นตามม้านั่งในสวนสาธารณะ หรือไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่หมกมุ่นอยู่กับตัวเอง คุณจะได้พบกับความบันเทิงชั้นยอด เฝ้ามองการแต่งตัวของผู้คนที่เดินผ่านไป การปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน คุณจะได้อะไรมากกว่าที่คิดนะ!
3. เข้าไปกลมกลืนกับคนท้องถิ่น
แม้ว่าการพูดคุยกับคนแปลกหน้าอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัวเมื่อคุณเดินทางคนเดียว แต่ก็ไม่อยากให้คุณพลาดโอกาสนี้สักเท่าไร เพราะมันคุ้มค่ามากกว่าที่คุณคิดนะ การเที่ยวแบบที่ไม่เหมือนนักท่องเที่ยวน่ะ มันจะทำให้คุณสัมผัสถึงพลังแห่งการเยียวยามากที่สุด รู้สึกสบายกายสบายใจมากที่สุด บางเรื่อง เมื่อได้พูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก หรือคนที่คิดว่าน่าเจอกันเพียงครั้งเดียว จะช่วยให้คุณสบายใจมากกว่าอยู่กับคนสนิทเสียอีก หรือบางทีคุณอาจจะพยายามทำตัวกลมกลืนหรือตีซี้ไปคนท้องถิ่น เพื่อหวังซึมซับชีวิตความเป็นอยู่และบรรยากาศแบบท้องถิ่นนั้น ๆ ก็ดีไม่น้อย
4. ลองสื่อสารด้วยภาษาท้องถิ่นนั้น ๆ
หลายคนที่มีแพลนจะไปเที่ยวต่างประเทศ มักตอบสนองความตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยว ด้วยการไปเรียนภาษาที่ประชากรของประเทศที่คุณจะเดินทางไปใช้สื่อสารกัน เพื่อเตรียมความพร้อมเบื้องต้นสำหรับการไปเที่ยว มันเป็นความคิดที่ดีมาก ๆ เลยนะที่คุณพยายามทำความคุ้นเคยกับการสนทนาพื้นฐานของภาษาอื่น ๆ ภาษาที่ใช้กันในประเทศที่คุณจะเดินทางไปเที่ยว มันเป็นเรื่องที่นักเดินทาง (คนเดียว) ควรจะรู้ไว้ พวกวลีหรือประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การขอความช่วยเหลือ ฯลฯ แม้ว่าคุณจะออกเสียงไม่ถูกต้องเป๊ะ ๆ แต่ก็น่าชื่นชมในความพยายาม
5. ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ
ได้เดินทางทั้งที อย่าเอาแต่อุดอู้อยู่ในห้องพัก หรือเดินเที่ยวอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวในร่มที่คนสร้างขึ้น แต่จงออกไปสัมผัสกับของขวัญที่ธรรมชาติมอบให้โลกใบนี้บ้าง ก่อนเดินทาง คุณสามารถหาข้อมูลได้ว่าจุดหมายปลายทางที่คุณจะไปนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอะไรบ้าง จากนั้นก็เลือกระดับการผจญภัยที่คุณสนใจได้เลย เที่ยวคนเดียว พักผ่อนอยู่ตามลำพังแบบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องโลดโผนอะไรนักหรอก แค่เดินคดเคี้ยวไปตามเส้นทางเดินป่า ขี่จักรยานผ่านเส้นทางสวนสาธารณะ หรือนั่งเล่นริมชายหาด ก็เติมพลังได้เหมือนกัน
6. ทำกิจกรรมร่วมกับฝูงชน
บางทีการอยู่ในที่สงบ ๆ หรืออยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจีอาจไม่ใช่เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะคุณอยากที่ดื่มด่ำกับกิจกรรมสนุก ๆ ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงและสีสันที่สนุกสนานมากกว่า ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ลองค้นหากิจกรรมในท้องถิ่นหรืองานอีเวนต์ที่จัดขึ้นในที่ชุมนุมชน อย่างตลาด การแข่งขันกีฬา เทศกาล ขบวนพาเหรด หรืออะไรอื่น ๆ ที่คุณสนใจ เป็นอีกหนทางที่ดีในการเข้าถึงจุดหมายปลายทางอย่างดื่มด่ำ
7. การเดินทางแบบชาญฉลาดและปลอดภัยไว้ก่อน
การออกเดินทางด้วยทัศนคติที่ว่า “อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันได้” ไม่ได้ทำให้คุณดูเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายแต่อย่างใด แต่มันทำให้คุณได้เตรียมตัวให้พร้อมต่างหาก ใช้มาตรการการป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิดทุกอย่างที่คุณจะสามารถนึกออก หรือทำการบ้านจากการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ จากเว็บไซต์กระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศนั้น ๆ หรือแม้แต่อ่านรีวิวของคนอื่น ๆ รวมถึงบอกแผนการเดินทางของคุณกับคนที่คุณรักอย่างน้อย 2-3 คนก่อนจะเดินทางก็ดี
8. ทำในสิ่งที่คุณไม่คุ้นเคย
ยกระดับการเดินทางของคุณให้ท้าทายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการจัดตารางทำกิจกรรมที่คุณไม่เคยทำมาก่อนหรืออะไรก็ตามที่คุณไม่คุ้นเคย เพียงแต่คุณคิดว่ามันน่าสนุก มันจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางของคุณให้น่าประทับใจได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
9. เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นแบบง่าย ๆ ที่พิพิธภัณฑ์
มันคงจะเป็นการเดินทางที่ตราตรึงใจไม่น้อยเลยนะ ที่คุณได้มีโอกาสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นที่คุณเดินทางไปเยือน บางคนชอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นแบบเจาะลึก หรือแบบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเท่าที่มัคคุเทศก์จะมอบให้ได้ แต่สำหรับการเข้าไปเดินเที่ยวในพิพิธภัณฑ์ การไปคนเดียวจะทำให้คุณมีอิสระในการเดินเล่น และใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่คุณสนใจได้นานเท่าที่คุณต้องการ
10. บันทึกการเดินทาง
หลายคนชอบบันทึกภาพหรือวิดีโอในสถานที่ที่คุณไป แน่นอนว่าภาพถ่ายและวิดีโอจะทำให้คุณจดจำสถานที่ที่คุณเคยไปได้ แต่สมุดบันทึกและการเขียน วิธีสุดเบสิก จะทำให้คุณได้บันทึก “ความรู้สึก” ระหว่างที่คุณอยู่ ณ สถานที่นั้น การบันทึกการเดินทาง รวมถึงบันทึกความคิด ความรู้สึกของคุณในขณะนั้น คุณสามารถทำได้มากมายหลายวิธี คุณจะเขียนเป็นตัวหนังสือ ร่างเป็นภาพ ติดเทปลงบนตั๋วหรือใบเสร็จร้านค้าต่าง ๆ เก็บดอกไม้แห้ง หรือจะวาดภาพทิวทัศน์อันงดงามวิจิตรตระการตาก็ได้ ไม่ได้มีกฎตายตัวเสียหน่อย
11. ส่งโปสการ์ด
เป็นเรื่องจริงที่โปสการ์ดกำลังจะหายไปเพราะโซเชียลมีเดีย ถึงมันจะเป็นวิธีที่ล้าสมัยไปหน่อย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการไปเที่ยว แล้วคุณยังแวะส่งโปสการ์ดกลับมาหาตัวเองและส่งให้เพื่อน ๆ ด้วยนั้น มันมีเสน่ห์แค่ไหน ข้อความที่คุณพยายามกลั่นกรองแล้วเขียนลงบนแผ่นกระดาษที่มีที่ให้เขียนไม่มากนัก มันช่วยให้คุณได้เรียนรู้ว่าใจความสำคัญคืออะไร ที่สำคัญ มันเป็นวิธีคลาสสิกที่ใช้สื่อสารกับตัวคุณเองและเพื่อน ๆ ของคุณได้ลึกซึ้งกว่า
12. พกหนังสือดี ๆ ไปนั่งอ่าน หรือฟังเพลงดี ๆ
คนเราไม่ได้กระหายความตื่นเต้นกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลาหรอกนะ บางทีคุณอาจจะอยากได้มุมสงบ ๆ มุมใหม่ แล้วใช้เวลาอยู่เงียบ ๆ คนเดียวก็เป็นได้ เพื่อไม่ให้ตัวเองสูญเสียความสงบอันมีค่าไปอย่างเปล่าประโยชน์ การพกหนังสือดี ๆ ไปนั่งอ่าน หรือสวมหูฟัง เปิดเพลงเพราะ ๆ แล้วหลับตาลงสักครู่ มันช่างจรรโลงได้ดีเชียวล่ะ
13. ลองเที่ยวแบบอาสาสมัคร
อัปเกรดการเดินทางเที่ยวธรรมดา ๆ ให้เหมือนกับการออกค่ายฤดูร้อนในสมัยเรียน ด้วยการเที่ยวแบบอาสาสมัคร เดินทางไกลอย่างมีจิตสาธารณะ ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นการออกค่ายแบบเวอร์ชันของคุณก็เป็นได้ ค้นหาสถานที่ต่าง ๆ ที่รับสมัครอาสาสมัครไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ในต่างแดน แล้วสมัครเข้าร่วมเดินทางดูสักตั้ง!
14. เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง
มันอาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่คุณน่ะไว้ใจสัญชาตญาณของตัวเองได้มากกว่าที่คิดนะ โดยเฉพาะในยามออกเดินทาง ก่อนจะตัดสินใจก้าวขาไปทิศทางไหน ลองตั้งใจฟังความรู้สึกลึก ๆ ในใจตัวเองที่เกี่ยวกับผู้คน สถานที่ หรือสิ่งของต่าง ๆ ต่อให้รู้สึกแปลกแค่ไหน ก็ลองมั่นใจกับความรู้สึกนั้นดู อย่าเพิ่งเพิกเฉยกับมัน เพราะสัญชาตญาณ หากมีอะไรก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย มันก็มักจะเป็นเช่นนั้น คุณจึงต้องพยายามปกป้องตัวเอง แล้วคุณจะได้รู้ว่าคุณเพิ่งหลีกเลี่ยงวิกฤติที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยตัวคุณเอง จากความรู้สึกแปลก ๆ นั่นล่ะ!
15. ทำความรู้จักตัวเอง
เมื่อได้ออกเดินทางตามลำพัง อย่าพลาดที่จะใช้เวลาพูดคุยกับ “ตัวของคุณเอง” การเดินทางอาจทำให้คุณได้ค้นพบจุดหมายปลายทาง แต่มันกลับไม่ใช่หนทางที่จะพัฒนาตนเอง แม้ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองมีอิสระอยู่ตลอดเวลา ทว่าคนเรามักจะมีกรอบของ comfort zone ล้อมรอบไว้อยู่เสมอนั่นแหละ ในการเดินทางคนเดียว คุณสามารถวางสิ่งเหล่านี้ไว้เบื้องหลังในชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นลองสำรวจความคิดและทำความรู้จักตัวเองดูอีกสักที
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.