ปักหมุด 5 ที่เที่ยวระนอง...เมืองรอง ต้องลองมา!
จังหวัดระนอง เป็นจังหวัดเล็ก ๆ จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ตอนบนที่มีเนื้อที่เป็นอันดับที่ 60 ของประเทศ มีชายแดนติดต่อกับประเทศเมียนมาร์ ระนองนั้นได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีฝนตกชุกที่สุดของประเทศไทย หรือเป็นเมือง ฝนแปดแดดสี่ ฤดูฝนอันยาวนาน 8 เดือน เริ่มตั้งแต่พฤษภาคม-ธันวาคม และ ฤดูแล้ง เริ่มจากเดือนมกราคม – เมษายน
ที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้เลยว่าจังหวัดเล็กๆ ที่เป็นเหมือนทางผ่านลงใต้อย่างจังหวัดระนอง จะมีของดีมากมายขนาดนี้ ถ้าบอกว่าจะลงใต้ หลายคนก็จะนึกถึงทะเล กระบี่ ภูเก็ต ใครล่ะจะคิดว่าแค่นั่งฟังประวัติการสร้างเมืองของเจ้าเมืองระนองก็เพลิดเพลินเกินหนึ่งวันแล้วล่ะ!
ว่าแล้วเราก็เปิดทริปกันด้วยการสักการะเจ้าเมืองระนอง “สุสานเจ้าเมืองระนอง” สถานที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญและผูกพันกับชาวระนองมายาวนาน ตั้งอยู่ที่เขาระฆังทอง ซึ่งเป็นที่ฝังศพของ “พระยารัตนเศรษฐี” (คอชู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก และต้นสกุล ณ ระนอง โดยที่ดินแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 450 ไร่ ได้ทำเรื่องขอให้เป็นที่ดินพระราชทานจากสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (ไม่ให้มีการออกโฉนดซื้อขายได้) ใช้เป็นสุสานประจำตระกูลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2426 ว่ากันว่าท่านมีแนวคิดป้องกันไว้เผื่อในอนาคตลูกหลานจะนำที่ดินไปแบ่งขายก็จะไม่สามารทำได้…
บ้านเทียนสือ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งหากมาเยือนระนอง บ้านเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 150 ปี สร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 5 ประมาณปี พ.ศ. 2433 ที่นี่เป็นดั่งพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของคนจีนรุ่นแรก ๆ ที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดระนอง และเกี่ยวดองกับตระกูล ณ ระนองเช่นกัน
โดยเจ้าของบ้านท่านเทียนสือเป็นหลานเขยของท่านคอซิ่มซั่ว ณ ระนอง ปัจจุบันบ้านหลังนี้ยังมีทายาทผู้สืบเชื้อสายอาศัยอยู่และได้เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมและฟังประวัติความเป็นมาอันยาวนาน
โดยที่นี่ยังมีกิมมิกการแต่งชุดบาบ๋า ย่าหยา (ชื่อเรียกของการแต่งกายของภาคใต้พื้นเมืองที่เป็นสไตล์ เปอรานากัน ที่เป็นศิลปะวัฒนธรรมผสมระหว่างจีนและมลายู) ให้นักท่องเที่ยวได้ใส่ถ่ายภาพบันทึกเป็นความทรงจำแบบย้อนวันวาน
หลังจากเดินชมบ้านถ่ายภาพจนจุใจแล้ว ก็ถึงเวลาพักเบรกแช่น้ำแร่ธรรมชาติกันบ้างที่นี่ บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ยังคงเป็นจุดเชคอินที่ฮิตตลอดกาล หลายคนมาเพื่อสิ่งนี้ ว่ากันว่าระนองนั้นเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำร้อน เป็นเมืองสุขภาพที่ใครหลายคนอยากมาพักผ่อน ใช้ชีวิตให้ช้าลง ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่
น้ำพุร้อนที่นี่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอยู่ด้วยกัน 3 บ่อ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อนี้ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะรักษะวาริน อุณหภูมิน้ำประมาณ 65 องศา ในน้ำมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายอย่าง และมีความแตกต่างจากที่อื่นคือไม่มีสารกำมะถันเจือปนเลย น้ำในบ่อจึงค่อนข้างใส โดยชื่อ “รักษะวาริน” นี้ เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จย่า เมื่อครั้งเสด็จเยือนระนองในปีพ.ศ. 2510 เนื่องจากมีการนำน้ำแร่ไปบำบัดรักษาโรค
ออกนอกตัวเมืองมาเที่ยวธรรมชาติกันบ้าง “คลองลัดโนด” ขึ้นลิสต์ปักหมุดไว้เลยสำหรับสายแอดเวนเจอร์ ผจญภัยลัดเลาะไปตามธรรมชาติของแนวป่าชายเลน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแหลมสน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ ที่นี่เป็นจุดจอดเรือของชาวประมงจึงมั่นใจได้เลยว่า
มื้อนี้เราจะได้รับประทานอาหารทะเลที่สดแบบยกออกมาจากทะเล! ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณแถบนี้เป็นชาวมุสลิมที่ปักหลักถิ่นฐานนี้มานานนับร้อยปี ประกอบอาชีพประมงเป็นหลักจึงเกิดการรวมตัวกันเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยว ตำบลม่วงกลวง เพื่อสร้างอาชีพ รายได้และสนับสนุนซึ่งกันและกัน ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมนั่งเรือพรีสชมเล (เรือพรีสเป็นเรือประมงท้องแบนลำเล็กที่จุดผู้โดยสารได้เพียง 2-3 คน)
เรานั่งเรือพรีสไปจนถึงเวิ้งน้ำอันกว้างขวางของอ่าวกะเปอร์ เพื่อไปปลูกป่าโกงกาง สร้างเกาะกำบังให้ชายฝั่งจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ และยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำทางทะเลที่สำคัญอีกด้วย
หลังจากปลูกป่ากันแล้วเราจึงมารับประทานอาหารทะเลสด ๆ บนกระชังกลางผืนน้ำ ที่มีชื่อว่าศูนย์การเรียนรู้ลอยน้ำ...จากนั้นเมื่อเติมพลังกันอย่างเต็มที่แล้วจึงไปลุยกันต่อกับกิจกรรมล่องแพเปียก
เซลฟี่ตัวเองกับธรรมชาติที่สวยงามพร้อมผืนฟ้าและแผ่นน้ำที่กว้างใหญ่แบบสุดลูกหูลูกตา ถือเป็นจุดขายที่ใครมาแล้วต้องห้ามพลาด
ลงใต้แล้ว เท้าไม่แตะหาดทราย ตัวไม่ได้แช่น้ำทะเล คงมาไม่ถึงภาคใต้สินะ!! ปิดท้ายทริปกันที่ “เกาะญี่ปุ่น” อีกจุดไฮไลท์สำคัญของจังหวัดระนอง ที่ว่ากันว่าเป็น เกาะสวรรค์กลางทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสนเช่นกัน ถือว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลระนองเลยก็ว่าได้ ที่นี่ก่อนเคยเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวแม่ไก่กว่าพันตัวก่อนเหตุการณ์สึนามิถล่มภาคใต้ เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะกำ ที่มีชายหาดสีขาว ทรายละเอียดนุ่ม ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสกิ๊ง จนมองเห็นปะการังใต้น้ำได้ชัดเจน
และไม่น่าเชื่อเลยว่าทะเลระนองแห่งนี้เราจะได้เห็นฝูงปลาสวยงาม เจ้านีโน่พระเอกแห่งท้องทะเล หรือแม้แต่ปลาไหลมอเร่ย์สัตว์แปลกใต้ท้องทะเลลึก นั่นจึงบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลแห่งนี้ว่ามีมากเพียงใด แต่ให้ระวังหอยเม่นกันมาก ๆ เพราะกระจายตัวเต็มเกลื่อนแนวชายหาดก่อนถึงฝั่ง เรียกว่าต้องลอยตัวกันยาวๆ ก่อนเข้าฝั่งเลยนะสาว เมื่อเห็นว่าปลอยภัยจริง ๆ แล้วค่อยเอาขาแตะพื้นทรายกลับขึ้นฝั่งได้
ต้องบอกเลยว่าเกินคาดกับการทำความรู้จักจังหวัดเล็กๆ จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ตอนบน ที่เราไม่เคยโฟกัสจะมาเที่ยวแบบจริงๆ จังๆ เลยสักครั้ง จบทริปแล้วต้องร้องออกมาดังๆ ว่า #ระนองสดชื่นนน
ที่สำคัญต้องบอกว่าการเดินทางมาระนองสะดวกแล้วจริงๆ หากเดินทางด้วยเครื่องบินนกแอร์ เปิดเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ระนอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระนองใกล้แค่หลับตาจริงๆ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.