ภูกระดึง ที่เที่ยวยอดฮิต พร้อมรีวิวการเดินทางไปภูกระดึง
"ภูกระดึง" หรือ "อุทยานแห่งชาติภูกระดึง"
สำหรับใน อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เปิดการท่องเที่ยว 1 ตุลาคม 2566 - 31 พฤษภาคม 2567 รวมระยะเวลาทั้งหมด 6 เดือน โดยนักท่องเที่ยวสามารถสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้า ทั้งบ้านพัก เต็นท์ และพื้นที่กางเต็นท์ ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวภูกระดึง ผ่านเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และทางโทรศัพท์หมายเลข โทร.042-810833 หรือ 042-810834
ขึ้นภูกระดึงทั้งที ต้องผ่านน้ำตก ผ่านป่า ลัดเลาะตามทางไป ผจญภัยของจริง เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่ในละคร ถ้าไม่เชื่อต้องลองติดตามดู รีวิวภูกระดึง รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังน่าสนุกมากและได้เห็นอะไรที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ถ้าพร้อมแล้ว ตามคุณ หมาป่าเดียวดาย บนยอดดอย ไปกันเลยดีกว่าค่ะ
สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิก นี่ก็จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมอยากจะนำเสนอ ทริปภูกระดึง ซึ่งคราวนี้ก็เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ตั้งแต่วันที่ 4-9 พ.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้อานิสงค์จากวันหยุดยาวก็เลยลาพักผ่อนเพิ่มอีกหน่อย หลังจากวุ่นวายจากเรื่องราวในเมือง ก็เลยอยากเข้าป่าเขา หาอิสระให้แก่ชีวิตซะหน่อย
เดือนพฤษภาคม ถือเป็นช่วงต้นหน้าฝนของภูกระดึง ดังนั้นก็จะเริ่มมีธรรมชาติ ความสดชื่น และความเขียวให้ได้เห็นกันพอสมควร อีกทั้งนักท่องเที่ยวในช่วงนี้มีน้อยมาก ๆ ก็ไม่ต้องวุ่นวาย ซึ่งก็เหมาะแก่การพักผ่อนมากเลยทีเดียว
ประวัติ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
สำหรับ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง นั้นได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย โดยตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีความสูง 1,316 เมตร โดยสภาพทั่วไปของภูกระดึง นั้นประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด มีพันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ ชมวิวที่หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และก็น้ำตก ซึ่งลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย ด้วยความที่ภูกระดึงมีสูงมากๆ จึงมีบรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่อุณหภูมิอาจจะลดต่ำลงจนถึง 0 องศาเซลเซียส
ภูกระดึง เปิดช่วงไหน 2566
ประกาศเปิดการท่องเที่ยว บนยอดเขาภูกระดึง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 - 31 พฤษภาคม 2567 จองเข้าอุทยานฯ ผ่าน App QueQ
การเดินทางไปภูกระดึงมี 3 วิธีดังนี้
การเดินทางโดยรถยนต์
-
ให้เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และ อำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 เลย-ขอนแก่น หลังจากนั้นก็เลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
-
ให้ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จนไปถึง จังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และ ผ่านตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
-
ให้เดินทางผ่าน จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่าน จังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ หลังจากนั้นก็เดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2
การเดินทางโดยรถประจำทาง
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ให้ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) สายกรุงเทพ - เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า หรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง และก็ต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ติดต่อสอบถามข้อมูลรถโดยสารได้ที่ โทร.0-2936-2852-66 อัตราค่าโดยสาร
-
รถปรับอากาศ VIP 24 ที่นั่ง ราคา 590 บาท
-
รถปรับอากาศ VIP 32 ที่นั่ง ราคา 449 บาท
-
รถปรับอากาศ ชั้น 1 ราคา 258 บาท
-
รถปรับอากาศ ชั้น 2 ราคา 280 บาท
เมื่อลงรถที่ผานกเค้า ให้ต่อรถสองแถวจากผานกเค้า ก็จะถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ราคา 30 บาท / คน
การเดินทางโดยรถไฟ
การเดินทางโดยรถไฟ เมื่อขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสาย ขอนแก่น - เลย ก็จะถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ติดต่อสอบถามข้อมูลรถไฟ โทร 0-2225-1300 ต่อ 5201 ,0-2223-0341-3 หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกระดึง โทร. 0-4281-0833, 0-4281-0834
ขอบคุณข้อมูลจาก http://park.dnp.go.th/visitor/
สำหรับทริปนี้ อุปกรณ์ถ่ายรูปคู่ใจของผมคือ Nikon D5200 ส่วนเลนส์คือ Tamron 16-300 f/3.5-6.3 Di II VC PZD Macro ซึ่งผมใช้เลนส์ตัวนี้ตลอดทั้ง 6 วันที่อยู่บนภูกระดึง
วันจันทร์ที่ 4 พ.ค. 2558 เวลา 8.00น. กับการเดินขึ้นภูกระดึงเป็นครั้งที่ 4 ถึงจะเคยมาแล้วหลายครั้ง ผมก็ยังเหนื่อยอยู่ดี จะไหวรึไม่ไหว มาถึงตรงนี้ก็ไม่มีที่ให้ถอยแล้วครับ นั่นลูกหาบแบกถังน้ำมันแซงหน้าผมไปแล้ว
ลูกหาบ ภูกระดึง
ช่วงเดือนนี้ร้านค้าจะน้อยมาก ๆ ดังนั้นเมื่อเจอร้านค้าแล้วก็ควรจะซื้อของกินกับน้ำติดตัวไว้บ้างครับ
ปางกกค่า การเดินทางเพิ่งเริ่มต้น เป้าหมายยังอีกยาวไกล
ปางกกค่า ภูกระดึง
ปางกกค่า ภูกระดึง
11.00 น. ผ่านมาแค่ครึ่งทาง ขาผมแทบจะหลุดแล้วนะเนี่ย
พร่านพรานแป ภูกระดึง
ใครไปภูกระดึงบ่อย ๆ จะรู้จักหมาตัวนี้ครับ เจ้าแดง
เจ้าแดง แห่งภูกระดึง
14.50 น. ที่บันไดเหล็กคู่ชัน คุณลุงลูกหาบที่แบกสัมภาระของผมก็ตามมาทัน จากจุดนี้อีกไม่เกิน 50 เมตรก็ถึงหลังแปแล้ว
ภูกระดึง เที่ยวได้ทุกวัน (ยกเว้นช่วงปิดภู)
15.00น. ครั้งที่ 4 ในชีวิต เข้าใกล้เป้าหมาย 10 ครั้งเข้าไปอีกขึ้นนึง
ผู้พิชิตภูกระดึง
ถือว่าคราวนี้ผมใช้เวลามากกว่าที่ผ่านมา (แต่ก็ยังไม่เท่าครั้งแรก) เนื่องจากผมยังมีเวลาอีกหลายวัน เย็นนี้ขอพักผ่อนให้สบายก่อนแล้วกัน
มาเยี่ยวอะไรกันตอนคนกำลังกินข้าวเนี่ย
ไหน ๆ ก็ได้เลนส์ 16-300 มาแล้ว ลองดูกำลังซูมของมันหน่อยซิ คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง
วิวบนภูกระดึง
จบวันนี้ เดินทางไประยะทางประมาณ 9 กม.
วันอังคารที่ 5 พ.ค. 2558 แสงแรกบนภูกระดึงที่ผานกแอ่น ภูกระดึง
แสงแรกบนภูกระดึง
มุมยอดฮิต ภูกระดึง
ผานกแอ่น ภูกระดึง
ผานกแอ่น ภูกระดึง
เลนส์ตัวนี้มีกำลังขยายประมาณ 1:3 ก็พอจะถ่ายแบบมาโครได้บ้าง
ดอกกระดุมเงินป่า
ดอกกระดุมเงินป่า
ลานวัดพระแก้ว
ลานวัดพระแก้ว ภูกระดึง
เช้านี้ผมตั้งใจจะเข้าไปน้ำตกวังกวาง ซึ่งค่อนข้างจะอยูใกล้ที่พักแต่เนื่องจากวันนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวท่านอื่นเข้าไปเส้นน้ำตกเลย ดังนั้นผมก็จะไม่เข้าไปลึกกว่านี้เพราะช่วงนี้ยังคงมีช้างป่าออกมาหากินใบไผ่ตามน้ำตกด้านในอยู่ การเดินเข้าป่าดิบคนเดียวอาจจะเสี่ยงเกินไปหน่อย
ดอกเอนอ้า เบ่งบานอยู่ตามรายทางทั่วไป
ดอกเอนอ้า
.....เอนอ้า อวดองค์ อรชร.............ก้านกิ่ว พริ้วผ่อน อ่อนไหว
สีสัน สดสวย ด้วยกลีบใบ..............ยวนใจ ภุมริน บินตามลม
.....เปล่งปลั่ง ดั่งดรุณี แรกแย้ม......งามแอร่ม แจ่มนวล สงวนสม
ชาติชาย หมายจิต ชิดชม..............เคียงภิรมย์ คลอเคล้า เยาวมาลย์
การเดินเที่ยวบนภูกระดึงในช่วงพฤษภาคม จำเป็นต้องมีเสื้อกันฝนติดตัวอยู่เสมอนะครับ เพราะฝนอาจจะตกลงมาเมื่อไหร่ก็ได้และที่สำคัญเดือนนี้ ทากดูดเลือดมีแล้วนะครับ ทางไปน้ำตกวังกวางเนี่ย ทากตัวเป้ง ๆ ทั้งนั้น
น้ำตกวังกวางชั้นบน
น้ำตกวังกวาง
น้ำตกวังกวางชั้นล่าง
น้ำตกวังกวางชั้นล่าง
selaginella มักขึ้นอยู่ตามที่ชื้น
selaginella
เดินตัดออกมาทางหลังองค์พระพุทธเมตตา ผ่านไปเส้นทางไปสระแก้ว
ถึงจะเป็นช่วงพฤษภาคมและอยู่กลางแจ้ง แต่น้ำเย็นมากครับ เดินมาไกล ๆ ลงไปแช่เท้านี่ฟินสุด ๆ
สระแก้ว
น้ำจากลำธารสระแก้ว ก็จะไหลยังน้ำตกธารสวรรค์และน้ำตกถ้ำใหญ่ ซึ่งผมจะไปในวันถัด ๆ ไป
มาโครเทียมของเลนส์ตัวนี้ใช้งานได้ และเหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวจริง ๆ
จากสระแก้ว ผมเดินผ่านทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่และดงเฟิร์นป่าสนที่เขียวขจี
ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ ภูกระดึง
ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ ภูกระดึง
ดงเฟิร์นป่าสน ภูกระดึง
มาโผล่ที่ผานาน้อย
ผานาน้อย ภูกระดึง
ผานาน้อย ภูกระดึง
ผานาน้อย
ช่วงนี้บนเส้นทางระหว่างผาเหยียบเมฆไปถึงผาแดง เราจะได้พบกับดอกกระเจียวสีหวาน ๆ มากมายผุดโผล่ขึ้นมาจากพื้นหญ้าตามข้างทาง
ดอกกระเจียว ภูกระดึง
ดอกกระเจียว ภูกระดึง
มองออกไปริมหน้าผา เราจะเห็นยอดภูผาจิต ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นภูเขายอดตัดคล้ายกับภูกระดึง
ยอดภูผาจิต
ยอดภูผาจิต อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
ฝนโปรยปรายเป็นช่วง ๆ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ธรรมชาติ
ผาหล่มสักยามที่ไร้เงาผู้คน ช่างแสนเงียบสงบ ช่วงปิดภู สนสามใบต้นนี้คงเหงาไปอีกนานเลย
ผาหล่มสัก ภูกระดึง
ผาหล่มสัก ภูกระดึง
ผาหล่มสัก ภูกระดึง
เดินกลับมายังที่พัก อยู่ที่นี่ก็ดีอย่าง ถึงจะกินข้าวอยู่คนเดียวก็ไม่เหงา มีเพื่อนร่วมโลกมายืนส่งสายตาอยู่ข้างโต๊ะตลอด
จบวันนี้ เดินทางไประยะทางประมาณ 23 กม.
วันพุธที่ 6 พ.ค. 2558 อีกหนึ่งเช้าที่ผานกแอ่น
ผานกแอ่น ภูกระดึง
ผานกแอ่น
ลูกสนหนุ่ม
ลูกสนแก่
วันนี้เป้าหมายหลักของผมคือเส้นน้ำตก แต่เนื่องจากผมไปน้ำตกวังกวางมาแล้ว วันนี้ผมจึงเลือกเดินมาทางหลังองค์พระพุทธเมตตา ซึ่งจะมีเส้นทางไปน้ำตกเพ็ญพบใหม่ได้โดยตรง
แม้ว่านี่จะเป็นการขึ้นภูกระดึงครั้งที่ 4 แต่นี่คือครั้งแรกของผมในการเดินเส้นน้ำตก
น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เป็นน้ำตกที่อยู่กลางแจ้ง กว่าผมจะเดินไปถึงก็ปาเข้าไป 10 โมง
แสงแรงมาก ขนาดใช้ f สุดท้าย ยังได้ชัตเตอร์แค่ 1/40 แต่โชคดีว่าได้รุ้งกินน้ำแถมมาหน่อยนึง
น้ำตกเพ็ญพบใหม่
น้ำตกเพ็ญพบใหม่
จากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ เส้นทางต่อจากนี้ มองสำรวจตัวเองให้ดีเลย ดงทากทั้งเส้น ถ้าเดินกันเป็นกลุ่ม คนแรกไม่โดนหรอกครับ แต่คนหลัง ๆ จะโดนทากเกาะ
น้ำตกเพ็ญพบใหม่
สิ่งที่ทากกลัวมากก็คือสารเคมีหรืออะไรที่ทำให้มันระคายเคือง สิ่งที่ผมใช้น็อคทากดูดเลือดแล้วได้ผลชะงัดก็จะเป็นน้ำส้มสายชูหรือไม่ก็น้ำมันมวย ยานวด น้ำมันเหลือง ยาเขียววัดโพธิ์ ยาหม่องน้ำ ชะโลมกันเข้าไป ใช้ได้ผลแน่นอน
.....กระโดดเผาะ เกาะผับ กระหยับคืบ..........ถีบกระทืบ มิใคร่หลุด สุดแสยง
ปลดที่ตีน ติดขา ระอาแรง.........................ทั้งขาแข้ง เลือดโซม ชะโลมไป
สุนทรภู่ได้กล่าวไว้ในนิราศเมืองแกลง ก็หมายถึงเจ้าตัวนี้แหละ
ทาก ภูกระดึง
น้ำตกพ่วงพบ เป็นน้ำตกเล็ก ๆ ก่อนจะถึงน้ำตกโผนพบ มีลานหินกว้าง ๆ ให้นั่งเล่น
น้ำตกพ่วงพบ
น้ำตกพ่วงพบ
ตัวชีปะขาวรึเปล่านะ
น้ำตกโผนพบ หากเป็นช่วงเดือนตุลาคม สายน้ำจะรุนแรงมาก
น้ำตกโผนพบ
จากนี้ไปต้องเดินไปบนลำธารครับ ถ้าเป็นหน้าน้ำเยอะ ๆ นี่ท่าจะเดินลุยกระแสน้ำกันสนุก
สังเกตเห็นอะไรมั้ยครับ
เส้นทางน้ำตกเป็นเส้นทางที่พาดผ่านกลางหุบเขา ตรงส่วนเว้าของภูกระดึง ดังนั้นเส้นทางส่วนใหญ่ก็จะต้องมีการเดินขึ้นลงหุบเขาเยอะมากและก็มีความชื้น มีตะไคร่เกาะตามหินทางเดิน ก็อาจจะทำให้เราลื่นไถลได้ จึงต้องระวังให้ดี
พอเดินไปได้พักใหญ่ ๆ จากลำธารกลางแจ้ง ทางเริ่มมืดสลัว กลายเป็นป่าดิบชื้น ๆ ผมถึงได้รู้ตัวเองว่า เดินเลยน้ำตกเพ็ญพบมาแล้วจริง ๆ แล้ว ผมก็เดินตามเพื่อนนักท่องเที่ยวอีก 2 ท่านมา แต่สุดท้ายก็เดินเลยกันมาหมด พอเข้าเขตป่าดิบมืด ๆ นี่แหละรู้เลย เพราะมันเข้าใกล้บริเวณน้ำตกถ้ำใหญ่แล้ว พลาดแล้วก็ไม่เป็นไรครับ จะได้มีเหตุผลที่ดีในการเดินขึ้นภูกระดึงครั้งต่อไป
เมเปิลแดงแห่งเดือนพฤษภาคม
เมเปิลแดง ภูกระดึง
น้ำตกถ้ำใหญ่
น้ำตกถ้ำใหญ่ ภูกระดึง
น้ำตกถ้ำใหญ่
บริเวณหลุมตื้น ๆ ตรงนี้ ไม่อาจทราบได้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ ถ้าใครอยากรู้ว่ากลิ่นช้างป่าเป็นยังไง มานั่งดมตรงนี้ได้ครับ กลิ่นรุนแรงมากแล้วก็จำกลิ่นให้ขึ้นใจเลยนะครับ ถ้าได้กลิ่นแบบนี้โชยมาในบริเวณอื่นบนภูกระดึง ให้ระวังตัวไว้ เพราะช้างป่าอาจอยู่ในรัศมีไม่ห่างจากคุณเท่าไหร่
ด้านบนเหนือจากตัวน้ำตกถ้ำใหญ่ที่เราคุ้นเคย เดินขึ้นไปอีกประมาณ 20 เมตร
ก็ได้พบกับน้ำตกถ้ำใหญ่ชั้นบนแอบซ่อนความไว้ในหมู่แมกไม้ ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่นานมาก จนเพื่อนร่วมเดินทางของผม 2 คน เดินกลับขึ้นไปตอนไหนแล้วก็ไม่รู้
น้ำตกถ้ำใหญ่
จากน้ำตกถ้ำใหญ่ เดินขึ้นมายังทางหลักด้านนอกป่าสน ระยะทางแค่ “สองสามก้าว” แต่เดินกันลิ้นห้อยเลยทีเดียว
เพียงสองสามก้าวที่ภูกระดึง
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ ๆ บ่าย 2 โมง ผมตั้งใจว่าวันนี้จะเดินกลับที่พักทันที เพราะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก เดินออกมาได้แค่ 100 เมตร ได้กลิ่นช้างป่ารุนแรงมาก เอาไงดีล่ะ เดินหน้าต่อไปมั้ย อยู่ตัวคนเดียวด้วย สุดท้ายไม่กล้าเสี่ยง หันหลังเดินอ้อมไปทางสระอโนดาตไปออกทางผานาน้อย ติดฝนอยู่ตรงนี้อีก 2 ชั่วโมงแล้วก็ช่วงที่ผมขึ้นมาเที่ยวนี้ มีร้านค้าริมหน้าผาอยู่แค่ที่ผาหล่มสักแค่นั้นครับ ผาอื่น ๆ มีแต่ซากร้านเปล่า ๆ
หม้อข้าวหม้อแกงลิงริมทางเดิน
หม้อข้าวหม้อแกงลิง
ผาจำศีล
ผาจำศีล
มาถึงผาหมากดูกก็เย็นมากแล้ว
ผาหมากดูก
ถ้าเป็นเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ร้านค้าตรงนี้จะคึกคักมาก แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือเลย แม้แต่เศษเปลือกไข่ปิ้งหรือฝาโออิชิ
อีก 2 กิโลก็ถึงงที่พักแล้ว
ถึงซะที ตอนทุ่มนึงพอดี ทั้ง ๆ ที่ผมน่าจะได้กลับมาถึงตั้งแต่บ่าย 3 แล้วนะ แต่ต้องมาเดินอ้อมอีกเกือบ 8 กิโล
จบวันนี้ เดินทางไประยะทางประมาณ 15 กม.
เป็นไงกันบ้างคะ จบตอนแรกไปแล้วกับ ภูกระดึง ที่เที่ยวหน้าหนาว จังหวัดเลย พร้อมการเดินทางไปภู ก็พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะมีแต่เดิน เดิน เดินและก็เดินนะคะ ตอนหน้าจะพาไปลุยกันต่อที่น้ำตกและผาต่างๆ ส่วนจะเป็นที่ไหนกันบ้าง ต้องคอยติดตามชมที่ http://travel.sanook.com/1395597/ นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ หมาป่าเดียวดาย บนยอดดอย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.