Meta ดันธุรกิจโตต่อเนื่องปี 2023 ผ่านเทคโนโลยี AI

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ชุมชนบนแพลตฟอร์มของ Meta ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีผู้คนกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลกที่ใช้งานแอปของ Meta ในทุก ๆ วัน หรือกว่า 3.88 พันล้านคนในแต่ละเดือน ทั้งนี้ ธุรกิจร้านค้ายังเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตดังกล่าว

โดย Meta ได้สร้างการเชื่อมต่อที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถมองหาโอกาสใหม่ ๆ และค้นพบฐานลูกค้าที่กว้างขึ้นผ่านหลากหลายฟีเจอร์ที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจตลอดทั้งกระบวนการ โดยเฉพาะในช่วงตลอดปี 2023 นี้ที่กำลังทวีความเข้มข้น Meta ยังคงให้ความสำคัญกับ 3 กลยุทธ์หลักที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมในไทย ซึ่งรวมไปถึง

การเติบโตของคอนเทนต์วิดีโอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิดีโอสั้น Reels

2. บทบาทของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับภาคธุรกิจ และ

3. การสร้างการเชื่อมต่อที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและตอบสนองความต้องการเฉพาะของบุคคล(Personalization) และการโต้ตอบกันแบบหนึ่งต่อหนึ่งที่สร้างความใกล้ชิดกับแบรนด์ผ่านเทรนด์การส่งข้อความทางธุรกิจ (Business Messaging)

“ธุรกิจจำนวนมากสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มผู้เป้าหมายที่เกี่ยวข้องและสร้างโอกาสได้มากมายผ่านแพลตฟอร์มของ Meta ซึ่งเราได้ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถถูกค้นพบและเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดย 3 กลยุทธ์หลักที่เราให้ความสำคัญในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสั้น Reels เทคโนโลยี AI หรือการส่งข้อความทางธุรกิจ ต่างเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของชุมชน Meta ซึ่งปัจจุบันได้เข้าถึงผู้คนกว่า 3.88 ล้านคนทั่วโลก และได้ขับเคลื่อนธุรกิจในขนาดต่าง ๆ กว่า 200 ล้านราย ผ่าน Facebook, Instagram, Facebook Messenger และ Instagram DM” คุณแพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย จาก Meta กล่าว

Reels เติบโตอย่างก้าวกระโดดและได้กลายมาเป็นประเภทคอนเทนต์ที่เป็นที่นิยมและถูกบริโภคมากที่สุดในหมู่ผู้ใช้ของ Meta และยังได้กลายมาเป็นประเภทของคอนเทนต์ที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมไปถึงในประเทศไทย โดยอ้างอิงจากรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ของ Meta ยอดการดู Reels ต่อวันพุ่งสูงขึ้นถึง 200 พันล้านครั้งต่อวัน และมียอดการรีแชร์คอนเทนต์ Reels ทั้งทาง Facebook และ Instagram สูงขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2022 โดยสำหรับประเทศไทย ผู้คนใช้เวลากว่า 50% บนแพลตฟอร์มของ Meta ไปกับการดูวิดีโอ ส่งผลให้ Reels มีบทบาทสำคัญต่อระบบ Discovery Engine ของ Meta ซึ่งช่วยสร้างการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ กว่า 40% ของคนไทยระบุว่าคอนเทนต์วิดีโอเป็นหนึ่งในสามสื่อหลักที่ช่วยให้พวกเขาค้นพบและพิจารณาซื้อสินค้าต่าง ๆ ปัจจุบัน ผู้ลงโฆษณาของ Meta เกินกว่า 75% ได้เลือกลงโฆษณาผ่าน Reels นอกจากนี้ รายได้ทั่วโลกจาก Reels ยังทะลุ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นจากเดิมที่ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปีก่อนหน้า

การเติบโตของ Reels ยังเกี่ยวเนื่องอย่างชัดเจนกับบทบาทที่มากขึ้นของเทคโนโลยี AI ซึ่งช่วยในการปรับแต่งประสบการณ์เฉพาะบุคคล รวมไปถึงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมผ่านการแนะนำ จัดลำดับ และการโฆษณา สำหรับแพลตฟอร์มของ Meta เทคโนโลยี AI ได้ช่วยให้ผู้คนสามารถมองเห็นคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับความสนใจของตัวเอง รวมไปถึงวิดีโอ Reels นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่นำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) ที่ขับเคลื่อนโดย AI ยังส่งผลให้การบริโภคคอนเทนต์ Reels บน Instagram สูงขึ้นถึง 24% อีกด้วย

ผลการวิจัย Culture Rising โดย Meta ระบุว่ามีการพูดถึงเทคโนโลยี AI บน Facebook และ Instagram สูงขึ้นถึง 173% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในปี 2022 ได้มีการเปิดตัว Meta Advantage Suite ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมขับเคลื่อนโดย AI จาก Meta ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจ โดยได้รวบรวมผลิตภัณฑ์และเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยให้กระบวนการในการสร้างโฆษณาเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยนักโฆษณาและเจ้าของธุรกิจให้สามารถเลือกชิ้นงานโฆษณาและเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ Meta ยังได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อกระตุ้นประสิทธิภาพการโฆษณาของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว AI Sandbox ของ Meta ที่ช่วยทดสอบความสามารถของ Generative AI สำหรับนักโฆษณา และฟีเจอร์การตลาดขับเคลื่อนโดย AI ใหม่ ๆ ที่เข้ามาเสริมเครื่องมือด้านการตลาดแบบอัตโนมัติภายใต้ Meta Advantage Suite รวมไปถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนด้านโครงสร้าง AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model - LLM) ของ Meta ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนานวัตกรรมเหล่านี้ ปัจจุบัน ผู้ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Meta เกือบทั้งหมดได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ AI จาก Meta อย่างน้อยหนึ่งแบบ ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ต้นทุนราคา Cost Per Acquisition (CPA) โดยรวมลดลง และมีอัตราผลตอบแทนจากการใช้จ่ายในการทำโฆษณา (Return on Ad Spend) มากกว่า 32% เมื่อใช้งานแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถเข้าถึงระบบ AI เน้นประสิทธิภาพและโซลูชันอัตโนมัติต่าง ๆ ได้ผ่าน Meta Advantage ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาแคตตาล็อก (Catalog Ad), โซลูชัน Shopping, การกำหนดเป้าหมายอย่างละเอียด (Detailed Targeting), การผสมข้อความรูปแบบต่าง ๆ (Text Variation), การสร้างพื้นหลังให้ชิ้นงาน, และการคร็อปภาพ ได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Meta ยังได้ปล่อยโซลูชัน Meta Lattice ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมโมเดลใหม่ที่ช่วยคาดการณ์ประสิทธิภาพของโฆษณา ผ่านการเรียนรู้ชุดข้อมูลจำนวนมากและเป้าหมายในการโฆษณารูปแบบต่าง ๆ 

“เจ้าของธุรกิจบนแพลตฟอร์มของ Meta ได้มีการใช้งานโซลูชันทางการตลาดภายใต้ Meta Advantage แล้วอย่างน้อยหนึ่งโซลูชันซึ่งหมายความว่าธุรกิจหลายล้านรายได้เริ่มใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจแล้ว” คุณแพรเสริม                                                                                                                                                               

สำหรับกลยุทธ์ส่วนที่สามคือการให้ความสำคัญกับบทบาทของการนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล และการโต้ตอบแบบหนึ่งต่อหนึ่งผ่านการส่งข้อความทางธุรกิจ หรือ Business Messaging เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการพูดคุยระหว่างเจ้าของธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย โดยปัจจุบัน มีผู้คนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกที่เชื่อมต่อกับธุรกิจต่าง ๆ ผ่านแอปส่งข้อความของ Meta ในทุก ๆ สัปดาห์

“ในทุก ๆ วัน ชุมชนของเราในไทยเชื่อมต่อถึงสิ่งต่าง ๆ ที่มีความหมายกับพวกเขา รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องผ่านการส่งข้อความ ข้อมูลจาก Boston Consulting Group (BCG) และ Meta ในปี 2022 ระบุว่า 78% ของคนไทยส่งข้อความพูดคุยกับธุรกิจอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ โดยการสำรวจคนไทยในวัยผู้ใหญ่กว่า 76% กล่าวว่าพวกเขาต้องการสื่อสารกับธุรกิจในลักษณะเดียวกันกับเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน ซึ่งก็คือการพูดคุยผ่านการส่งข้อความ แสดงให้เห็นว่าการส่งข้อความทางธุรกิจมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ และทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและรู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจยิ่งขึ้น” คุณแพรเสริม

งานวิจัยที่จัดทำโดย Forrester Consulting และ Meta ในเดือนธันวาคม 2022 ยังแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์การส่งข้อความทางธุรกิจสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่า 61% เมื่อเทียบกับช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ที่ใช้ก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่น ในแง่ของการขาย มูลค่าการสั่งซื้อของลูกค้าสูงขึ้น 22.1% สืบเนื่องจากการสื่อสารระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ทำผ่านการส่งข้อความทางธุรกิจ

“การส่งข้อความทางธุรกิจเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่แบรนด์ต่าง ๆ ควรพิจารณา โดยผู้ลงโฆษณามากกว่า 65% ของเราในไทยได้เลือกใช้โฆษณาแบบคลิกไปยังการส่งข้อความ (Click-to-Message) ในอนาคต เรายังมีแผนที่จะสนับสนุนธุรกิจให้สามารถใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันส่งข้อความของเราเพื่อผลักดันให้เกิดอัตราการพิจารณาซื้อสูงสุด” คุณแพรกล่าว

นอกจากสามกลยุทธ์หลักดังกล่าวนี้ Meta ยังได้เปิดตัวแอปข้อความอย่าง Threads ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมของปีนี้ ซึ่งเป็นแอปที่เน้นการแบ่งปันอัปเดตในรูปแบบข้อความและส่งเสริมบทสนทนาสาธารณะ โดยภายในเวลาเพียง 5 วันหลังเปิดตัว Threads มีผู้สมัครใช้งานมากกว่า 100 ล้านบัญชี ส่งผลให้ Threads กลายเป็นแอปที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งยังมียอดการใช้งานประจำวันกว่า 10 ล้านครั้งทั่วโลก ในขณะที่แบรนด์ต่าง ๆ ได้สร้างบัญชีทางการบน Threads อย่างรวดเร็ว โดยตั้งแต่การเปิดตัว ทีมงาน Meta ยังคงเดินหน้าพัฒนาประสบการณ์บน Threads อย่างต่อเนื่อง โดยได้พัฒนาฟีเจอร์มากมายเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ การค้นพบ และการปรับแต่งเพื่อเสริมความต้องการเฉพาะบุคคล ในแอปพลิเคชัน

“เราตื่นเต้นที่เห็นผลตอบรับที่ดีต่อแอป Threads ทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย วัตถุประสงค์ของเราคือ การสร้าง public square หรือพื้นที่ชุมชน ที่เปรียบเสมือนพื้นที่สาธารณะบน Instagram เพื่อให้เกิดการพูดคุยและโต้ตอบบทสนทนาต่าง ๆ ในเชิงบวกและสร้างสรรค์” คุณธารินาฎ ภัทรรังรอง ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์พันธมิตร Facebook ประเทศไทย จาก Meta กล่าวเสริม

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.