Garmin เปิดตัว ไดฟ์คอมฯ สมาร์ทวอทช์ 2 ซีรีส์ใหม่ DESCENT MK3 และ DESCENT G1 Solar – Ocean Edition

Garmin ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จีพีเอสสมาร์ทวอทช์ระดับโลก เปิดตัว ไดฟ์คอมฯ สมาร์ทวอทช์ 2 ซีรีย์ใหม่ล่าสุด DESCENT MK3 ที่มาพร้อมเครื่องรับส่งสัญญาณ DESCENT T2 ตอบโจทย์นักดำน้ำทั้งมือโปร และมือสมัครเล่น ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการดำน้ำแบบจัดเต็ม และ DESCENT G1 Solar – Ocean Edition จากวัสดุรักษ์โลก

โดย DESCENT MK3 และ DESCENT T2 Transceiver มาพร้อมเทคโนโลยีโซนาร์ SubWave ที่อัพเกรดใหม่ เพิ่มฟังก์ชันการส่งข้อความระหว่างนักดำน้ำ (Diver-to-driver Messaging) และฟีเจอร์ Diver Assistance

สำหรับตรวจสอบแรงดันถังออกซิเจน ซึ่งจะสามารถใช้งานผ่านการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้ในเร็วๆ นี้ สำหรับ DESCENT G1 Solar – Ocean Edition เป็นผลิตภัณฑ์แรกของการ์มินที่ผลิตด้วยพลาสติกรีไซเคิลจากขยะในท้องทะเล 100% มาพร้อมเลนส์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยให้นักดำน้ำสำรวจโลกใต้น้ำได้ยาวนาน ด้วยแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งาน 25 ชั่วโมงในโหมดดำน้ำและ 124 วันในโหมดสมาร์ทวอทช์

สมาร์ทวอทช์ทั้ง 2 ซีรีย์ ไม่เพียงอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ดำน้ำที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์การดำน้ำได้อย่างเต็มที่ ยังพร้อมด้วยฟีเจอร์ติดตามสุขภาพ การออกกำลังกาย รวมถึงฟีเจอร์การเชื่อมต่อ ตอบโจทย์แอคทีฟไลฟ์สไตล์นอกเหนือจากการดำน้ำ เป็นการผสานฟังก์ชันการใช้งานของคอมพิวเตอร์ดำน้ำและสมาร์ทวอทช์ได้อย่างลงตัว

คุณหรรษา อาภานุกูล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “การ์มินไม่เพียงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วย นำมาสู่การพัฒนาไดฟ์คอมฯ สมาร์ทวอทช์ 2 รุ่นใหม่ โดย DESCENT MK3 และ DESCENT T2 Transceiver มาพร้อมเทคโนโลยี SubWave ใหม่ที่เพิ่มฟังก์ชั่นให้นักดำน้ำอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยในการดำน้ำแต่ละครั้งได้มากขึ้น และอีกหนึ่งรุ่นใหม่ DESCENT G1 Solar – Ocean Edition เป็นรุ่นพิเศษของ DESCENT G1 ซึ่งเป็นไดฟ์คอมฯ เครื่องแรกของใครหลายคน โดยรุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้มีคอนเซ็ปต์การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาสมุทร จึงได้นำขยะพลาสติกที่เสี่ยงต่อการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลมารีไซเคิลเป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิต Ocean Edition เรือนนี้ที่จะเป็นเพื่อนคู่ใจให้นักดำน้ำสำรวจโลกใต้น้ำได้อย่างสบายใจ”

DESCENT MK3 และ DESCENT T2 Transceiver ออกแบบโดยนักดำน้ำเพื่อนักดำน้ำโดยเฉพาะ ตัวเรือนได้รับการออกแบบให้สามารถดำน้ำได้ลึก 200 เมตร พร้อมเลนส์แซฟไฟร์ทนทานต่อรอยขีดข่วน และปุ่มโลหะป้องกันการรั่วซึม จึงสามารถใช้งานได้ที่ระดับความลึกเป็นสองเท่าจากรุ่นก่อนๆ มีสองขนาดให้เลือก คือ หน้าปัดขนาด 43 มิลลิเมตร และ 51 มิลลิเมตร พร้อมตัวเลือก Air Integration ทั้งสองขนาด มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีน AMOLED คมชัดอ่านง่ายแม้อยู่ใต้น้ำ และแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 66 ชั่วโมงในโหมดดำน้ำอัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่พร้อมเป็นคู่หูการผจญภัยออกสำรวจโลกใต้ท้องทะเลได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ดังนี้

• ฟีเจอร์ Diver Assistance (สามารถใช้งานผ่านการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้ในเร็วๆ นี้) ฟีเจอร์ปฏิวัติวงการดำน้ำที่จะช่วยให้เหล่านักดำน้ำสามารถขอความช่วยเหลือโดยตรงผ่านนาฬิกาได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุคับขัน ด้วยเทคโนโลยีโซนาร์ SubWave ที่ปรับปรุงใหม่ เมื่อใช้ DESCENT MK3i และ DESCENT T2 Transceiver นักดำน้ำจะสามารถส่งแจ้งเตือนขอความช่วยเหลือไปยังนักดำน้ำคนอื่นๆ ที่เชื่อมต่อสัญญาณไว้ นักดำน้ำที่เชื่อมต่อในบริเวณใกล้เคียงจะสามารถมองเห็นความลึกและระยะห่างของนักดำน้ำที่ขอความช่วยเหลือ และจะติดตามตำแหน่งจนกว่าจะช่วยเหลือได้สำเร็จ
• ฟีเจอร์ Diver-to-diver Messaging หรือการส่งข้อความระหว่างนักดำน้ำ (สามารถใช้งานผ่านการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้ในเร็วๆ นี้) นักดำน้ำที่สวม DESCENT MK3i และ DESCENT T2 Transceiver สามารถรับ-ส่งข้อความที่ตั้งไว้กับนักดำน้ำคนอื่นๆ ที่เชื่อมต่อสัญญาณกันในระยะห่างไม่เกิน 30 เมตรด้วยเทคโนโลยี SubWave
• ฟีเจอร์ Dive Group Tracking หรือการติดตามการดำน้ำเป็นกลุ่ม ใช้ระบบ Air Integration ติดตามตำแหน่งนักดำน้ำคนอื่นๆ ในกลุ่มว่าอยู่ตำแหน่งใด ทั้งยังสามารถดูระยะความลึกและแรงดันถังออกซิเจนของนักดำน้ำที่ใช้ DESCENT T2 Transceiver ได้สูงสุดถึง 8 คน ในระยะห่างไม่เกิน 10 เมตร
• DESCENT MK3i ขนาด 55 มิลลิเมตร มาพร้อมไฟฉาย LED ในตัว พร้อมโหมดไฟกระพริบ (Strobe Mode) ช่วยให้นักดำน้ำมองเห็นได้ดีขึ้นในสภาพแสงน้อย ทั้งใต้น้ำและเหนือผิวน้ำ
• ฟีเจอร์ Dive Readiness หรือคะแนนความพร้อมในการดำน้ำ: คะแนนที่บอกความพร้อมโดยรวมของร่างกายในการดำน้ำ ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยด้านสภาพร่างกาย เช่น การนอนหลับ การออกกำลังกาย ความเครียด และอาการเจ็ตแล็ก (Jet Lag) ยิ่งคะแนนความพร้อมสูงยิ่งบ่งบอกถึงความพร้อมในการดำน้ำที่มาก แต่หากคะแนนต่ำควรพิจารณาใช้ Conservatism Setting ที่สูงขึ้น หรือเลือกการดำน้ำที่ง่ายขึ้น

DESCENT MK3 มาพร้อมโหมดการดำน้ำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำแบบซิงเกิ้ล-ก๊าซ และมัลติ-ก๊าซ (ทั้งอากาศแบบ Nitrox และแบบ Trimix) รวมถึงยังมีโหมด gauge โหมด apnea โหมด apnea hunt และโหมด closed-circuit rebreather ผู้สวมใส่สามารถปรับแต่งหน้าจอข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการดำน้ำแต่ละโหมดหรือเลือกหน้าจอเรียบง่ายพร้อมข้อความขนาดใหญ่เพื่อให้ดูข้อมูลการดำน้ำที่สำคัญได้ง่ายก็ได้เช่นกัน แผนที่ DiveView แบบใหม่ (มีเฉพาะบางจุดในยุโรปและอเมริกา) แสดงเส้นชั้นความลึกของน้ำและข้อมูลจุดดำน้ำมากกว่า 4,000 แห่งทั่วโลก เพื่อช่วยระบุตำแหน่ง Specific Site อาทิ ซากเรืออับปาง และจุดที่เหมาะสมสำหรับการยิงปลา (Spearfishing) เซนเซอร์แบบบิวท์อิน ไม่ว่าจะเป็น อัลติมิเตอร์ (Altimeter) บาร์รอมิเตอร์ (Barometer) เข็มทิศ และเข็มทิศใต้น้ำ ช่วยนำทางในการดำน้ำ และใช้ระบบ GPS บนผิวน้ำในการบันทึกจุดดำลงน้ำและโผล่พ้นน้ำ ผู้ใช้ยังสามารถดูข้อมูลน้ำขึ้นน้ำลงในบริเวณใกล้เคียงก่อนการดำน้ำและใช้การตั้งจุด Reference Point สำหรับการนำทางบนผิวน้ำไปยังจุดดำน้ำเป้าหมาย นอกจากนี้ นักดำน้ำยังสามารถตรวจสอบข้อมูลการดำน้ำ ติดตามอุปกรณ์ รวมถึงจดบันทึกในบันทึกการดำน้ำ (Dive Log) และแชร์ให้คนอื่นดูได้ผ่านแอป Garmin Dive ซึ่งจะช่วยให้นักดำน้ำวิเคราะห์ผลงานของตนเองได้อย่างเต็มที่

นอกจากฟังก์ชันด้านการดำน้ำ DESCENT MK3 ยังมาพร้อมคุณสมบัติของจีพีเอสสมาร์ทวอทช์มัลติสปอร์ตระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นโปรไฟล์กีฬาในตัว อาทิ การวิ่งเทรล ว่ายน้ำ เดินป่า และตีกอล์ฟ ฟีเจอร์ฟิตเนสระดับพรีเมียม เช่น VO2 Max โปรแกรมออกกำลังกายประจำวันที่แนะนำ (Daily Suggested Workouts) สำหรับการวิ่งและการปั่นจักรยาน คะแนนความอึด (Endurance Score) และคะแนนสมรรถภาพร่างกายในการวิ่งขึ้นเนิน (Hill Score) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟิตร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดำน้ำในครั้งถัดไป

DESCENT G1 Solar – Ocean Edition สมาร์ทวอทช์ดำน้ำรักษ์โลกเรือนแรกของการ์มิน มาพร้อมตัวเรือนโพลิเมอร์
เสริมความแข็งแกร่ง ขนาด 45 มิลลิเมตร เลนส์แซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน และจอภาพขาวดำอ่านง่าย ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางทหารของสหรัฐอเมริกา MIL-STD-810 ทนต่อความร้อน แรงกระแทก และกันน้ำลึกถึงระดับ 100 เมตร

Ocean Edition มีจุดเริ่มต้นจากการพยายามคิดหาวิธีการนำพลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่ทะเลกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดปัญหาขยะในท้องทะเล หลังกำหนดคอนเซ็ปต์และค้นคว้ามากมาย จนได้มาเป็นนาฬิกาเพื่อการสำรวจมหาสมุทรที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งได้มาจากการรวบรวมขยะพลาสติกตามแหล่งน้ำ นำไปคัดแยก ทำความสะอาด และปล่อยให้แห้ง แล้วจึงนำไปหลอมเพื่อทำเป็นเรซินอัดก้อน เสริมด้วยใยแก้ว ก่อนจะทาสี จากนั้นนำวัสดุที่ได้ขึ้นรูปเป็นตัวเรือน ขอบตัวเรือน และปุ่มข้างตัวเรือน นำมาประกอบเข้ากับคอมพิวเตอร์ดำน้ำที่ทนทานต่อการใช้งานที่สมบุกสมบัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานดำน้ำได้อย่างมั่นใจ

DESCENT G1 Solar – Ocean Edition อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ยอดนิยมจาก DESCENT G1 Solar รุ่นแรก ซึ่งรวมฟังก์ชันการใช้งานของไดฟ์คอมฯ และสมาร์วอทช์ครบจบในเรือนเดียว ครบถ้วนด้วยฟีเจอร์การใช้งานทั้งบนบกและใต้น้ำ ไม่ว่าจะเป็น

• โหมดการดำน้ำหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การดำน้ำแบบซิงเกิ้ล-ก๊าซ และมัลติ-ก๊าซ (ทั้งอากาศแบบ Nitrox และแบบ Trimix) รวมถึงยังมีโหมด gauge โหมด apnea โหมด apnea hunt และโหมด closed-circuit rebreather
• ติดตามจุดดำลงน้ำและขึ้นจากน้ำด้วยระบบ GPS เหนือผิวน้ำ
• จัดเก็บและรีวิวข้อมูลการดำน้ำได้มากถึง 200 ครั้ง และยังสามารถแชร์ผ่านแอป Garmin Dive ได้อีกด้วย
• ปรับแต่งหน้าจอและแสดงผลข้อมูลเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับโหมดการดำน้ำแต่ละโหมดได้
• นำทางใต้ผืนน้ำได้ง่ายดายด้วยเข็มทิศดำน้ำแบบ 3 แกนในตัว
• ดูข้อมูลน้ำขึ้นน้ำลงในบริเวณใกล้เคียงได้โดยตรงจากนาฬิกาบนข้อมือ
• รักษาร่างกายให้ฟิตพร้อมสำหรับการดำน้ำในครั้งถัดไป ด้วยแอปกีฬาที่มีมากกว่า 30 รายการในตัว คำแนะนำระยะเวลาฟื้นตัว (Recovery Time Adviser) สถานะการฝึกซ้อม (Training Status) โปรแกรมออกกำลังกายประจำวันที่แนะนำ (Daily Suggested Workouts) และการติดตามการหายใจตลอดวัน (All-day Respiration Tracking)

DESCENT MK3 และ DESCENT G1 Solar – Ocean Edition ยังครบครันไปด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ใช้ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ ฟีเจอร์ติดตามและวัดผลด้านสุขภาพมากมาย อาทิ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจจากข้อมือ (Wrist-based Heart Rate) คะแนนประสิทธิภาพการนอน (Sleep Score) การติดตามการนอนหลับขั้นสูง (Advanced Sleep Monitoring) ความอิ่มตัวออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox) และพลังงานร่างกาย (Body Battery) ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจภาพรวมของร่างกายมากขึ้น DESCENT MK3 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Jet Lag Adviser ที่จะให้คำแนะนำการรับแสง ตารางการนอน และการออกกำลังกายเพื่อลดผลกระทบการเจ็ตแล็ก ทั้ง 2 ซีรีย์ยังรองรับ Garmin Pay ระบบชำระเงินไร้สัมผัสผ่านบัตรเครดิตจากธนาคารที่รองรับ รวมถึง Garmin x Rabbit บริการชำระเงินผ่าน Rabbit Card ณ ผู้ให้บริการที่มีสัญลักษณ์ยินดีต้อนรับ Rabbit Card ทั้งยังมีฟีเจอร์ตรวจจับเหตุการณ์ (Incident Detection) และขอความช่วยเหลือ (Assistance) ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้สวมใส่ในทุกทริป

สมาร์ทวอทช์ทั้ง 2 ซีรีย์ใหม่ DESCENT G1 Solar – Ocean Edition มาในราคา 21,990 บาท และ DESCENT MK3 ซีรีย์ ราคาเริ่มต้นที่ 43,990 บาท DESCENT T2 Transceiver ราคา 17,990 บาท พบกับไดฟ์คอมฯ ตัวล่าสุดจาก Garmin ได้แล้ววันนี้ ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของการ์มินทุกสาขา ติดตามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://gar.mn/22139ZO หรือที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Garmin Thailand และ อินสตาแกรม Garmin Thailand