"แพท พาวเวอร์แพท" เล่านาทีชีวิตติดในลิฟท์จนอากาศจะหมด ระหว่างบวชที่อินเดีย

แพท พาวเวอร์แพท เล่านาทีชีวิตเกือบขาดอากาศหายใจ เพราะติดในลิฟท์ระหว่างบวชรอบ 2 ที่ประเทศอินเดีย 

นักร้องมากความสามารถ แพท พาวเวอร์แพท ที่วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์บวชรอบ 2 ที่ประเทศอินเดีย พร้อมเล่านาทีชีวิตติดอยู่ในลิฟท์เกือบขาดอากาศหายใจในระหว่างการบวชครั้งนี้ อีกทั้งยังเผยจุดเปลี่ยนจากคนที่ไม่ศรัทธาในศาสนา แต่ในปัจจุบันใช้พระพุทธศาสนานำทางในการดำเนินชีวิต งานนี้ไม่รู้ว่าบวชเสร็จแล้วจะเบียดเลยหรือเปล่า โดยหนุ่มแพท เปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องone31 ที่มี ดีเจพุฒ พุฒิชัย และเอส กันตพงศ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

อันนี้เพิ่งสึกมา?

แพท : วันอาทิตย์ตอนเย็น เพราะว่าวันจันทร์มีงานติดต่อเข้ามา จริงๆ ผลัดเขามาตั้งแต่ก่อนบวช ก็เลยต้องสึกตามกำหนด

หมายความว่าถ้าไม่มีงานพี่แพทก็ยังจะบวช ?

แพท : ก็ไม่แน่ครับ

ทราบมาว่าครั้งนี้เป็นการบวชครั้งที่ 2 ?

แพท : ใช่ครับ ครั้งแรกคือตอนออกมาจากเรือนจำใหม่ๆ สัก 3-4 ปี ที่แล้ว ครั้งนี้ตั้งใจบวชให้ตัวเอง เพราะปกติชีวิตประจำวันมีแต่มอบพลังบวกให้กับคนอื่นไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การบรรยายสร้างแรงบันดาลใจ การดูแลครอบครัว ทุกอย่างมันใช้พลังเยอะมาก ครั้งนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เติมพลังบุญ พลังชีวิตให้กับตัวเอง 

บวชครั้งที่2 บวชที่ไหน?

แพท : บวชที่ประเทศอินเดีย มีการไปบวชในโครงการ 11 พ่อ ของวัดเทพศิรินทร์ แต่เราไปบวชที่พุทธคยาเลย เป็นวัดไทย ชื่อว่า วัดเมตตาพุทธาราม

ทำไมถึงเลือกบวชที่อินเดีย?

แพท : ได้รับการเชิญชวนจากสมเด็จพ่อ สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ เพราะก่อนหน้านี้ที่ผมบวชครั้งแรก ผมบวชที่วัดเทพศิรินทร์อยู่แล้ว แล้วที่วัดมีการจัดโครงการอุปสมบทหมู่หลากหลายมาก ท่านก็ชวนหลายครั้ง รุ่นนี้ที่ผมบวช เขาเรียกว่า วปก28 คือวิทยาลัยป้องกันกิเลส อันนี้คือรุ่นที่28 แล้ว

สมัยก่อนพี่แพทไม่ได้เป็นคนศรัทธาพระพุทธศาสนาเลย?

แพท : ใช่ครับ ผมว่าวัยรุ่นทุกคนก็เป็น อาจจะไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องพระพุทธศาสนา พระไม่ไหว้เลย และไม่เชื่อเรื่องของพิธีกรรมต่างๆ ใส่บาตรกันทำไม ไหว้พระกันทำไม และไม่มีความเข้าใจเรื่องของธรรมะเลย และมีความแอนตี้เล็กๆ ด้วย มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่เชื่ออะไรเลยนอกจากตัวเอง แต่พอเหตุการณ์มันเปลี่ยนไปเริ่มโตขึ้น เริ่มวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นกับตัวเองและคนรอบข้าง สุดท้ายมันก็เริ่มตกผลึกไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ที่ทำให้เรากลับมาศรัทธา คือเหตุการณ์ที่เราไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ ในเรื่องของกรรม ในเรื่องของการกระทำต่างๆ เริ่มถูกปลูกฝั่งจากในเรือนจำด้วย เพราะว่าในนั้นเรียกว่าตั้งแต่ตื่นนอนเลยจะผูกพันกับพุทธศาสนาตลอด ประมาณตี 4-5 เราตื่นมาพร้อมกับเสียงสวดมนต์ แล้วเราก็ต้องลุกขึ้นมานั่งสวดมนต์ แล้วก็ใน 1 วัน สวดมนต์ประมาณ 5 รอบ กิจกรรมในเรือนจำที่มีให้ผู้ต้องขังก็มีเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเยอะแยะมากมาย มีช่วงของการอบรมฝึกจงกรม ฝึกสมาธิ บางโอกาสมีพระเข้ามาเทศน์ในเรือนจำด้วย

ตรงนี้ก็เลยเป็นจุดเปลี่ยน?

แพท : ครับ แล้วจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา เราเริ่มหาเหตุผล เพราะตอนที่ใช้ชีวิตในเรือนจำมันเริ่มมีเวลาอยู่กับตัวเอง เริ่มคิดทบทวนว่าทำไมเหตุการณ์มันเกิดขึ้นกับเราแบบนี้ ก็เลยเริ่มนั่งทบทวน เริ่มดูจากชีวิตเพื่อนรอบข้าง เพราะต่างคน ต่างที่มา ต่างสภาพแวดล้อม แล้วมาโดนคดีต่างๆ ผมก็เริ่มมาวิเคราะห์แล้ว แล้วเหตุผลต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น มันไปเข้าหลักธรรมทั้งนั้นเลย พอผมได้มาบวชในครั้งแรก ผมได้เริ่มเรียนรู้แล้วว่า จริงๆ หลักธรรมมันมีอยู่แล้วบนโลก มันเป็นหลักการ เขาเรียกว่าเป็นกฎของโลก มีก่อนพระพุทธเจ้าด้วย พระพุทธเจ้าเพียงแต่ว่าท่านทรงรู้ก่อน เรียนรู้ด้วยตัวเอง แล้วมาเผยแพร่ อารมณ์ประมาณนักวิทยาศาสตร์ รู้กฎแรงโน้มถ่วง รู้กฎต่างๆ ที่เป็นวิทยาศาสตร์แล้วมาเผยแพร่ แล้วธรรมะเรียกว่าเป็นสิ่งไม่มีกาลเวลา มีความทันสมัยตลอดเวลา เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่พันปีทุกวันนี้ก็ยังจริงอยู่

ธรรมะและพระพุทธศาสนาช่วยให้เราดีขึ้น?

แพท : ใช่ครับ เป็นคนดีขึ้นแน่นอน ไม่ต้องอะไรเยอะ ถ้าเราครองศีล 5 ได้ชีวิตเราดีขึ้นแน่นอน

พี่แพทมีอะไรอยากจะแชร์ไหมว่าพระพุทธศาสนามันส่งผลอะไรกับชีวิตเรา ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นยังไง?

แพท : จริงๆ ทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี แล้วเรื่องของธรรมะมันไม่ได้เป็นเรื่องของกลุ่มคนใด กลุ่มคนนึง ผมว่ามันเป็นเรื่องของชาวโลก มันเป็นเหตุ เป็นผล เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แล้วทุกอย่างมันสามารถพิสูจน์ได้เป็นวิทยาศาสตร์ ก็อย่าเพิ่งเชื่อ ลองทดลองดู บางคนเฮ้ย…ชีวิตตัวเองสามารถกำหนดได้จริงไหม ผมว่าจริงมากๆ เลย คุณลองทำแย่ๆ สิ ลองทำดีไปเรื่อยๆ สิ แล้วลองดูผลสิว่าจะตามมายังไง ลองพิสูจน์ดู คือพระพุทธเจ้าทรงรู้ด้วยตัวท่านเองกับความจริงบนโลกนี้ แล้วทุกอย่างได้ถูกพิสูจน์ด้วยพระองค์แล้ว แล้วมีการสืบเนื่องมาหลายพันปี ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังสามารถพิสูจน์ได้จริง

พอคุณพ่อ คุณแม่ทราบว่าพี่บวชรอบ2 เป็นยังไงบ้าง?

แพท : ท่านก็ยินดี แล้วก็อนุโมทนาด้วย ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่มันเกิดขึ้นในชีวิต และเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีแล้วกัน เพราะส่วนตัวไม่ได้มีโอกาสไปอยู่ต่างประเทศนานๆ ขนาดนี้ด้วย

เมื่อกี้พี่บอกเป็นการอุปสมบทหมู่ ทั้งหมดกี่รูป?

แพท : 69 รูปครับ ก็มีเป็นลูกศิษย์ หลานศิษย์ของสมเด็จพ่อ มีหลากหลายวัย มีตั้งแต่ 60 กว่า วัยเกษียณแล้วไปยังวัยรุ่น อายุน้อยสุดรู้สึกจะเป็น 23 ปี

อุปสรรคที่เจอในการบวชที่อินเดีย มีอะไรบ้าง?

แพท : เรื่องของพิธีการผมแอบตื่นเต้นหน่อย เนื่องด้วยความเป็นอินเดีย แล้วบรรยากาศต่างๆ ดูมีพลัง รู้สึกว่าพระพุทธเจ้าอยู่ใกล้เราตลอดเวลา เลยแอบตื่นเต้น แม้จะเป็นการบวชครั้งที่2 แล้วเรื่องของการห่มผ้า เนื่องจากเป็นผ้าใหม่ยังไม่ได้ซัก เราก็อยากให้มันแน่น เพราะเราต้องเดินทางด้วย มันก็เลยบาดผิว ก็มีเป็นแผล เนื่องด้วยอากาศแห้งด้วย

ตอนบวชเดินทางไปที่ไหนบ้าง?

แพท : ตอนแรกเราไปที่พุทธคยาก่อน 2 คืน แล้วก็ล่องไปเรื่อยเลยครับ คือโปรเจกต์นี้เขาอยากให้เราไปเรียนรู้ กึ่งๆ ทัศนะศึกษานั่นแหละ ตามรอยพระศาสดาของเรา ไปทุกที่ แล้วก็ข้ามไปที่ประเทศเนปาล 1 คืน แล้วก็กลับเข้ามาล่องไปเรื่อยๆ ล่องเป็นวงกลม จนมาที่พาณาสี แม่น้ำคงคา แล้วเอาเส้นผมที่สมเด็จพ่อขิบเนี่ย ที่พ่อ แม่ เราขิบไปลอยที่แม่น้ำคงคา ที่นั่นถือเป็นที่กำเนิดการลอยกระทงด้วย แล้วก็วนกลับมาที่พุทธคยาอีกครั้งนึง

การเดินตามรอยพระพุทธเจ้าใช้เวลากี่วัน?

แพท : 12-13 วัน แล้วก็เดินทางแทบทุกวัน ถนนหนทางของเขาจะไม่เหมือนบ้านเรา บ้านเรา 100 กิโลอาจจะใช้เวลาเท่านี้ แต่ที่นั่นต้องดับเบิ้ลไปอีก 2-3 เท่า เนื่องจากสภาพของถนน บางวันเราอาจจะต้องอยู่บนรถบัส 7-8 ชั่วโมง แล้วถ้าคาบเกี่ยวช่วงทำวัด เราก็นั่งทำวัดกันบนรถเลย

พี่ประทับใจที่ไหนมากที่สุด?

แพท : ถ้าส่วนตัวก็พุทธคยาแหละ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า มีพระมหาเจดีย์ และมีต้นโพธิ์ที่พระองค์นั่งตรัสรู้ด้วย รู้สึกจะเป็นรุ่นที่ 4-5 แล้ว ไม่ใช้ต้นเมื่อ 2 พันปีที่แล้วนะ เขาน่าจะมีกรรมวิธีแบบปักจนรุ่นที่5 แล้ว และมีการล้อมต่างๆ ตรงนั้นมีพลังงานเยอะมาก 

กิจวัตรในฐานะพระภิกษุสงฆ์ต้องทำอะไรบ้าง?

แพท : เป็นกิจของสงฆ์เลย ผมจะตื่นตี4–4.30 น. เพื่อสรงน้ำ แล้วเตรียมเดินบิณฑบาตร ซึ่งต้องถอดรองเท้า และไม่สามารถมีเครื่องนุ่งห่มอะไรได้เยอะ อย่างหมวกไหมพรหมกันหนาวก็ใส่ไม่ได้ ตอนนั้นอากาศเย็นมาก เคยเย็นสุด 6-7 องศา ตอนเดินบิณฑบาตรเท้าชา หน้าชาเลย เพราะว่าอากาศเย็นมากๆ แล้วสักประมาณ 5-6 วัน จมูกเริ่มแตก เลือดซิบเลย คืออากาศที่เราหายใจมันเย็น มันแห้งด้วย จมูกลอก ซึ่งต้องมองให้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มีมาเดี๋ยวมันก็ไป

เห็นว่าพยายามทานทุกอย่างที่อยู่ในบาตร?

แพท : ใช่ครับ ผมจะพยายามทานทุกอย่างที่อยู่ในบาตร อยากให้เขารับบุญได้เต็มที่ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีนะฉันท์ข้าวในบาตร

เห็นว่ามีเครื่องดื่มชนิดนึงที่ชอบมากๆ ?

แพท : มันคือชาร้อนของอินเดียที่ใส่นมนั่นแหละ แล้วจะมีสมุนไพรผสม เราจะได้กลิ่นคล้ายๆ ขิง จะเหมือนชานม หอม มัน แต่จะมีกลิ่นสมุนไพรด้วย

เห็นว่าสภาพอากาศมันสวิง?

แพท : บ้านเราเย็นที่สุดอาจจะเช้ามืด แต่ประเทศอินเดียเขาจะเย็นช่วง 7 โมงเช้า แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราต้องไปนั่งทำวัดเช้าด้วย พอ 11 โมง แดดเริ่มแรงแล้ว แรงมาก ที่นั่นลมไม่ค่อยมี แล้วฝุ่นเยอะ สักประมาณช่วง 4 โมงเย็นเริ่มฮวบละแล้วจะมืดเร็วมาก เรียกว่า 5 โมงเย็นเหมือนประมาณ 1 ทุ่มบ้านเราแล้ว แล้วอากาศก็จะดิ่ง เย็นเลย หลายท่านป่วยเลยนะ โชคดีเราแข็งแรงหน่อย มีไอบ้าง ผิวแตกบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ

ได้อะไรจากการบวชที่อินเดียบ้าง?

แพท : ได้เยอะ มหาศาลกับชีวิตมาก แค่ได้ไปก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว อยากจะบอกว่าตั้งแต่เริ่มไป ไม่ได้ง่ายนะ เพราะปกติงานเราก็ค่อนข้างเยอะ กว่าจะเคลียร์งานได้ วางแผนชีวิตได้ต่างๆ แล้วการเดินทางไปที่นั่นเราได้รับรู้ถึงเรื่องราวของพุทธประวัติ เราได้สัมผัสได้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ที่เราเคยเรียนพระพุทธศาสนามาตอนเด็กๆ มันไม่ใช่เป็นแค่นิทานหรือเรื่องที่เล่าต่อกันมา อันนี้คือมีขึ้นจริง พระพุทธเจ้ามีจริง สถานที่เกิด เหตุต่างๆ เรื่องราวต่างๆ มีอยู่ให้ประจักษ์ แล้วนอกจากเรื่องของธรรมะเรายังได้เห็นชีวิตของคนอินเดียด้วย มีความแตกต่างเรื่องของชั้น วรรณะ คนจนนี่จนจริงๆ นะ ขอทานเยอะมาก ด้วยความยากจนต่างๆ เราได้เห็นถึงความลำบากของเขา นอกจากทำบุญ ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ก็จะมีการให้ทานด้วย ที่นั่นเวลาเห็นพระไทยแล้วชอบมาก เขาบอกว่าพระไทยเมตตาสูง

ย้อนกลับไปตอนที่ฉันท์อาหารรวมกันหน่อย ความรู้สึกมันเป็นยังไง?

แพท : จริงๆ มันไม่ถึงขนาดคลุกรวมกัน ก็จะแบ่งไว้ มีคาว มีหวาน มีแกง มีแห้ง เพราะบาตรค่อนข้างใหญ่ ข้าวจะอยู่ตรงกลางรอบๆ ก็จะเป็นกับข้าว เราก็จะแบ่งกินเป็นโซนๆ ไม่ถึงขนาดคลุกทุกอย่างรวมกันขนาดนั้น

เขาบอกว่าใครที่มีโอกาสไปบวชที่อินเดียจะติดใจ อยากไปอีก พี่แพทเป็นแบบนั้นไหม?

แพท : ผมก็ติดใจนะ แต่ต้องดูจังหวะชีวิตอีกที ผมว่ามันมีความเป็นอินเดียสไตล์ ทุกอย่างมันไม่ได้เพอร์เฟค ไม่ได้พร้อม แต่มันมีเสน่ห์ของมันในเรื่องบรรยากาศของมัน

พี่แพทบวชทั้งในไทยและอินเดีย ใช้หลักพระพุทธศาสนาอะไรดำรงชีวิตในตอนนี้?

แพท : เยอะเลย สิ่งนึงคืออย่ายึดติด เพราะจริงๆ ความไม่เที่ยงมันเป็นความจริงของโลก มันไม่มีอะไรอยู่ได้ตลอดไป แม้กระทั้ง ความสุข ความทุกข์ของเรา ล้วนเป็นสิ่งสมมติทั้งนั้น พระพุทธเจ้าเคยตรัสเอาไว้ว่าแม้กระทั่งพระพุทธศาสนาเองวันนึงก็ต้องล่มสลายหมดไป แม้กระทั่งโลกที่เราอยู่ตอนนี้ เมื่อถึงเวลามันก็สลายไป เพราะฉะนั้นจะไปอะไรกันมาก ทุกวันนี้เรามีชีวิต เรามั่นสร้าง สะสมความดี อะไรที่มันไม่ได้เป็นสาระ ชอบเก็บมาคิดกันเยอะแล้วก็ทำให้เราทุกข์ เราลองพิจารณาดูว่าอะไรมันคือแก่นสารของชีวิตก็มุ่งไปตรงนั้น ให้เวลากับตรงนั้น เพราะว่าคนเราชีวิตมันไม่ได้นานหรอก เอาเวลาที่มีค่าของเรา เอาไปดูแลและใส่ใจเรื่องที่มันเป็นแก่นสารในชีวิตจะดีกว่า

เรื่องที่ติดค้างคาใจของพี่แพทคืออะไร?

แพท : ตอนแรกเป็นข้อสงสัยมากกว่าไม่ถึงกับคาใจหรอก เนื่องจากเราไปเป็นกรุ๊ปใหญ่น่าจะร่วม 100 ชีวิต จะเป็นการพักที่โรงแรม เราเลยสงสัยแล้วถามพระอาจารย์ดูว่ามันจะผิดไหม ท่านบอกว่าทุกที่ที่มีการสอบแล้วว่าไม่ได้มีการผิดวินัยอะไร เรื่องของความสะดวกด้วย เพราะว่าคณะเป็น 100 ภิกษุก็น่าจะ 70-80 แล้ว จะไปนอนที่วัดไทยก็คงจะไม่สะดวก เรื่องของความปลอดภัยด้วย แล้วเรื่องของการสะดวกในการรวมตัวต่างๆ อันนี้ก็สอบถามแล้ว ไม่ได้ผิด

การนอนที่โรงแรมนี่แหละ มันนำพามาสู่เหตุการณ์สุดระทึกที่เกือบจะขาดอากาศหายใจ?

แพท : ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันที่15 ที่เราเดินทางข้ามไปที่ประเทศเนปาลก็ได้ไปพักที่โรงแรมนึง ไม่ว่าจะเป็นอินเดียหรือเนปาลขึ้นชื่อเรื่องไฟดับอยู่แล้ว แล้วช่วงเช้าหลังจากบิณฑบาตรเสร็จ เราต้องเอาบาตรขึ้นไปล้างบนที่พักก็ได้มีการขึ้นลิฟท์ ตอนนั้นมีอยู่ประมาณ 6-7 รูป ผมพักอยู่ชั้น3 แล้วก็มีพระที่พักอยู่ชั้น 2 ด้วย ระหว่างกำลังเดินทางขึ้นไป ชั้น1 ถึงชั้น2 เนี่ยลิฟท์เริ่มมีกระตุกแล้ว มีไฟแว๊บๆ แต่ก็ขึ้นไปจอดที่ชั้น 2 ได้ พระที่อยู่ชั้น2 ก็ออกไป ระหว่างกำลังจะขึ้นไปชั้น3 ลิฟท์ดับ ไฟดับมืดเลย ส่วนตัวเคยติดลิฟท์มาแล้ว แต่ว่าครั้งนั้นมันยังสว่างอยู่ แต่นี่มันมืดหมดเลย แล้วหยุดค้างอยู่อย่างนั้น แล้วในนั้นมีผมอยู่แล้วพระอีก 2 รูปที่บวชด้วยกัน แต่อายุมากกว่าเป็นผู้ใหญ่หน่อย พอดับเสร็จปุ๊บใจเราไม่ดีละ ต่างบ้าน ต่างเมืองด้วย แล้วเราก็ไม่ค่อยมั่นใจในมาตรฐานของที่นั่น กังวลหลายอย่าง พยายามช่วยกันกดขอความช่วยเหลือ แต่มันก็ใช้ไม่ได้ เพราะว่าไฟมันดับไปหมดเลยแล้วพยายามติดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือก็ไม่มีสัณญาณ แล้วมีพระที่อยู่ด้านหน้าพยายามเปิดประตูลิฟท์ที่อยู่ระหว่างชั้น ซึ่งออกไปไม่ได้อีก แล้วใจเราคิดว่ามันจะหล่นหรือเปล่า ณ ตอนนั้นยอมรับเลยว่าใจเราไม่สู้ดี สักพักนึงไฟก็มา แล้วก็ได้ออกไป แต่อยากจะบอกว่าช่วง 2-3 นาทีนั้นใจมันระทึกมาก เพราะว่าอากาศด้วยความที่ลิฟท์เล็กด้วย แล้วอากาศมันแห้ง อากาศหนาวด้วย อากาศเลยไม่ได้เยอะมาก รู้สึกอากาศหมดไวมาก พอออกมาได้ก็มาทราบว่าลิฟท์ข้างๆ ก็ติดเหมือนกัน แล้วมีพระที่บวชด้วยกันกับคณะเรา 1 รูป แต่ว่าไปรวมกับพระสงฆ์จากประเทศกัมพูชา ก็ติดมืดเหมือนกัน แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง

หลังจากนั้นวันอื่นๆ ก็เดินลงดีกว่า?

แพท : ไม่ว่าจะไปพักที่ไหน เดินขึ้น-ลงตลอดเลยครับ ผมก็มีการเตือนพระรูปอื่นเหมือนกัน ใครจะขึ้นก็ขึ้นนะ แต่ผมยอมเดิน แม้จะสูงแค่ไหนก็ตาม

หลังจากที่บวชเรียบร้อยแล้ว แพลนในอนาคตอยากทำอะไรอีก?

แพท : จริงๆ ก็ไม่ได้หวังอะไรมากมาย ตั้งแต่ชีวิตที่ผ่านมาหลายปีแล้วก็จะยึดอยู่ 3 หลักใหญ่ๆ คือเรื่องของงานที่รับ มีโอกาสอะไรก็ทำไปให้เต็มที่ แล้วก็ในส่วนของการกลับม่ดูแลครอบครัว มาเป็นเสาหลัก ตรงนี้ก็ทำให้เต็มที่และใช้เวลาอยู่กับครอบครัว แล้วอีกอย่างที่ต้องบาลานซ์ คือการทำงานเพื่อสังคม ตามความรู้ ความสามารถที่เรามีอยู่

บวชแล้วจะเบียดเลยไหม?

แพท : เอาจริงชีวิตที่ผ่านมา ตอนผมกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติเนี่ย เพิ่งได้ 3-4 ปีเอง ชีวิตยังประกอบร่างอยู่เลย บวกกับภาระหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ เวลาส่วนตัวยังไม่ค่อยมีเลย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมยังไม่ได้คิด แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่อยากทำ ก็ยังไม่ได้อยู่ในแพลนชีวิตเลย

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.