"เบสท์" กลั้นน้ำตาไม่อยู่ อัปเดตอาการป่วย "สมรักษ์ คำสิงห์" ค่ารักษาพ่อสูงแต่ก็สู้
กลั้นน้ำตาเอาไว้แทบจะไม่อยู่ สำหรับนักแสดงสาว เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ที่ล่าสุดได้ออกมาอัปเดตอาการป่วยของคุณพ่อ สมรักษ์ คำสิงห์ ให้กับสื่อมวลชนได้ทราบ หลังต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ห้อง ICU เนื่องจากป่วยเส้นเลือดในสมองตีบระยะ 2 และยังมีภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปกติอีกด้วย
โดย เบสท์ รักษ์วรีย์ ได้เผยว่า "ตอนนี้คุณพ่อออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ แต่ก็ต้องตามดูอาการเรื่อยๆ เพราะยังมีหัวใจที่เต้นช้ากว่าปกติอยู่ สาเหตุที่พ่อต้องเข้า ICU เกิดจากภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ แต่คุณหมอบอกว่าเป็นระยะที่2 ไม่ได้เป็นระยะแรก เนื่องจากเราเห็นที่หลายคนแชร์กันว่า ถ้าเกิดเป็นระยะแรกไปโรงพยาบาลทัน 4 ชั่วโมง ฉีดยาแล้วก็จะดีขึ้น"
"แต่ของพ่อเป็นมาระยะหนึ่งแล้ว จนเส้นเลือดที่เป็นภาพเอ็กซเรย์ สมองข้างขวาเป็นก้อนสีดำคือเหมือนเลือดไปเลี้ยงไม่หมด เลือดไม่ได้ไปเลี้ยงบริเวณนี้ มันค่อนข้างดำมาก อันนี้เป็นระยะที่ 2 แล้วนะ ต่อให้เรามาทัน 3-4 ชั่วโมงแรกก็ไม่ทัน เลยต้องรักษาตามอาการ"
"แต่เหมือนพ่อยังพูดได้ ตอบสนองได้ คุณหมอก็เลยยังไม่ได้ผ่าตัดอะไร เลยให้นอน ICU ค่ะ"
แสดงว่าก่อนหน้านั้นไม่มีใครทราบว่าคุณพ่อป่วยเป็นโรคนี้ ?
"ตอนกลางคืนยังกินข้าวคุยกันปกติ แต่พอตื่นเช้าขึ้นมาหน้าคุณพ่อทางด้านซ้ายคือเบี้ยว แล้วก็เดินเซทรงตัวไม่ได้ หยิบกาแฟมากินก็ไม่ได้ ถือโทรศัพท์มาเล่นก็ไม่ได้ จนต้องไปโรงพยาบาล แล้วก็ได้รู้ว่าเขาเป็นเส้นเลือดในสมองตีบระยะที่2"
เกี่ยวกับการที่คุณพ่อเอาแอลกอฮอล์ไปหยอดใส่หูหรือเปล่า ?
"อันนี้ไม่น่าเกี่ยวนะคะ เพราะว่าคุณหมอไม่ได้บอกว่าเกี่ยว หูนี่น่าจะเป็นความดื้อส่วนตัว แต่สมองเหมือนเป็นมาระยะหนึ่งเลย คุณหมอก็ถามว่าเคยออกอาการอะไรก่อนหน้านี้ไหมเวลาอยู่บ้าน แต่ทุกอย่างปกติค่ะ"
"แม้กระทั่งตอนกลางคืนนั้นก็ยังคุยปกติอยู่ เพราะคุณหมอบอกว่าถ้าเป็นระยะแรกจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เดินเซ แต่กรณีของคุณพ่อคือพูดเรื่องทุกอย่าง แล้วก็เดินปกติ มีแค่เช้าวันนั้นที่สื่อสารไม่ค่อยปกติและหน้าเบี้ยว"
เราได้ถามอาการคุณพ่อไหม ว่าเริ่มต้นเป็นยังไงบ้าง ?
"เขาบอกว่าเคยรู้สึกเหมือนแขนข้างซ้ายชา แต่ตอนนั้นก็คิดว่าเหน็บกิน อาจจะนั่งนานหรือว่าเล่นโทรศัพท์นาน มือก็เลยชา เขาก็เลยไม่ได้เอะใจว่าเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งอันนี้ก็คืออันตรายมาก ถ้าเกิดใครดูอยู่ก็อยากให้รีบเช็กนะคะ ถ้าเริ่มชานี่คืออาจจะเป็นได้"
เป็นครั้งแรกที่พ่อเข้าห้อง ICU เลยไหม ?
"ตั้งแต่หนูจำความได้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คุณพ่อเข้าไอซียูค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นไม่ทราบ ปกติคุณพ่อไม่ค่อยป่วย"
นอนในห้อง ICU ทั้งหมดกี่วัน ?
"ไอซียูน่าจะประมาณ 4 วัน แล้วก็ออกมาห้องพักธรรมดาอีก 4-5 วัน อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ค่ะ"
ใจหายไหมที่เห็นคุณพ่อเป็นแบบนี้ ?
"(น้ำตาคลอ)"
เห็นบอกว่าคุณพ่อมีภาวะการเต้นของหัวใจเต้นช้ากว่าปกติด้วย ?
"อ๋อ คือหลังจากที่ออกมาพักห้องปกติ ก็ตรวจพบว่าหัวใจเต้นช้าลง (น้ำตาไหล) หนูไม่ได้ตั้งใจร้องไห้ ขอโทษนะคะ"
"ตอนนี้ก็ดูแลตามอาการ หมอนัดให้ไปตรวจทุกอาทิตย์ ส่วนเรื่องหัวใจเหมือนต้องทำ Sleep Test ด้วย เพราะว่าในขณะที่หลับคุณพ่อมีหยุดหายใจ"
ครอบครัว คำสิงห์
คุณพ่อกลับมาอยู่บ้านแล้ว กำลังใจดีขึ้นไหม ?
"เขาก็ดีขึ้นนะคะ ความที่เขาเป็นคนดื้อ ก็ไม่อยากอยู่โรงพยาบาลอยู่แล้ว พอกลับมาบ้านเขาก็ดูแฮปปี้ขึ้น โรงพยาบาลบอกว่าให้กายภาพ เขาก็จะเดินทุกเช้า วันละ 10-20 นาที"
สิ่งที่คุณหมอห้ามเป็นพิเศษเลยคืออะไร ?
"น่าจะเป็นเรื่องของอาหาร เพราะว่าคอเลสเตอรอลสูงเกือบ 300 แล้วก็ไขมันกับน้ำตาลต้องลด เพราะอีกนิดเดียวก็จะเป็นเบาหวาน"
ทำให้เรามีความรู้ทางด้านการแพทย์เยอะขึ้นเลย ?
"ทั้งกฎหมาย ทั้งการแพทย์เลยค่ะตอนนี้ (ยิ้ม)"
ด้วยความที่เขาดื้อ เราต้องเข้มงวดกับเขาเพิ่มขึ้นไหม ?
"หนูไม่ได้เข้มงวดนะ แต่บอกเขาเลยว่าถ้าดื้อก็อาจจะต้องไปนอนไอซียูอีกนะ เราจะใช้โหมดดุนิดหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ยอมฟัง เมื่อวานจะกินกาแฟ หนูก็บอกไม่ได้ คืองด ไม่ได้"
"ทุกวันนี้คนในบ้านก็ช่วยกันดูแลค่ะ แม่ก็ยังอยู่บ้านหลังเดียวกันกับพ่อนะคะ เพียงแต่ว่านอนคนละห้อง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแม่ที่คอยดู วันไหนเดินเยอะเกินไปก็จะมาบอกเรา เพราะแม่เองก็เป็นห่วง คือหนูไม่รู้กรณีคนอื่นเป็นยังไง แต่ของพ่อหนูเขายังสื่อสารได้ คุณหมอเลยยังไม่กล้าทำอะไร ก็ให้ยามาทานก่อนค่ะ ไม่ได้ถึงขั้นสื่อสารไม่ได้"
อาการหน้าเบี้ยวกลับมาดีขึ้นเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม ?
"กลับมาคืนแรกเลยที่นอน ICU พอเอ็กซ์เรย์สมองตอนดึกๆ หน้าปกติแล้ว แต่การสื่อสารจะช้านิดนึง ตอนแรกยังไม่ดีขึ้น แต่ทุกวันนี้เขาทำกายภาพเอง มันก็เลยหายเร็ว"
พ่อคิดถึงงานบ้างไหม ?
"เขาอยากกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ขับรถได้ หรือว่าไปไหนได้ เพราะว่าตอนเนี่ยคือขับรถไม่ได้เลย คุณหมอห้าม แล้วอากาศร้อนๆ ก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวเป็นสโตรกอีก"
พ่อได้ให้กำลังใจคนในครอบครัวด้วยไหม ?
"คือที่เห็นว่าเราเศร้าๆ เพราะว่าเขาร้องไห้ เขากลัว แล้วเราก็เลยกลัวไปด้วย ยิ่งเห็นพ่อร้องไห้ก็จะร้องตาม"
"ปกติพ่อไม่เคยร้องไห้ให้เห็น แต่อันนี้คือนอน ICU คืนแรกเขาร้องไห้เลย เขากลัวเพราะไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมานอนแบบนี้ แล้วตอนนั้นยังขยับข้างซ้ายไม่ได้ด้วยเลยยิ่งกลัวมาก ทีนี้พอเขาร้องไห้เราก็ช็อกไปเลยที่เห็น"
จะมีโอกาสหายขาดไหม ?
"คุณหมอยังไม่เคยพูดนะว่าจะหายขาด บอกแค่ว่าต้องกินยาไปตลอด และช่วง 1-2 เดือนแรก ไม่อยากให้ไปไหน หรือไม่อยากให้ทำอะไรเลย เขายังบอกเลยว่าหลังปีใหม่ค่อยว่ากัน ว่าสามารถไปไหนได้บ้าง เขากลัวว่าถ้าทำ เลือดจะไม่ไปเลี้ยงสมอง เดี๋ยวจะน็อกไปอีก แล้วถ้าสื่อสารไม่ได้ กลับมาไม่ได้ ก็จะหนัก"
ค่าใช้จ่ายเราดูแลเองคนเดียวเลย ?
"ใช่ค่ะ เขาดื้อด้วยไม่ได้ทำประกันเลย เพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรง"
แสดงว่าก็หมดไปหลายบาทเหมือนกัน ?
"หนูเสียเงินไม่ได้ซีเรียสค่ะ แต่ไม่อยากให้ป่วยมากกว่า"
ตอนนี้ยังกังวลอะไรเป็นพิเศษอยู่ไหม ?
"ตอนนี้ไม่ได้กังวลคุณพ่อแล้วค่ะ เพราะว่าเขาค่อนข้างเชื่อฟัง คือเขาก็กลัวเหมือนกัน แต่เราจะไปกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมากกว่าว่าจะมีอะไรอีกไหม อย่างก่อนหน้านี้น้องชายแขนหัก แล้วก็มาคุณพ่อเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าเดือนหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก อันนี้คือสิ่งที่กังวล ปกติเป็นคนคนที่ไม่ได้กังวลเรื่องอนาคตเลย แต่ทุกวันนี้กังวลแล้ว เพราะมันน่ากลัวมาก หนูเพิ่งคุยกับพ่อตอน 3 ทุ่ม แต่พอตื่นมาตอน 11 โมง คือคุณพ่อหน้าเบี้ยว เป็นเส้นเลือดในสมองตีบ มันน่ากลัวค่ะ"
เราก็เจอเรื่องอะไรที่หนักๆ เหมือนกันในปีนี้ ?
"โห หนักตั้งแต่ปีที่แล้วเลยค่ะ หนักไม่พักเลยค่ะ ส่วนเรื่องการมู ดูดวง คือหมอดูนี่ต้องพักเลยค่ะ เพราะยังไม่มีใครแม่น วัดก็ไปค่ะ ช่วงหนึ่งเราก็ไปปฏิบัติธรรม แต่เราก็ได้ค้นพบมาแล้วว่า การปฏิบัติธรรมสามารถทำได้ที่บ้าน คือการอยู่กับจิต เลยไม่ได้ไปวัดแล้ว"
แล้วพฤติกรรมของคุณพ่อเวลาคันหูหรือหูอื้อ แล้วชอบเอาอะไรไปหยอด ทุกวันนี้ยังต้องระวังอยู่ไหม ?
"อันนั้นเขาทำตอนสมัยเล่นละครค่ะ แต่ว่ามันเพิ่งมามีผลในตอนปัจจุบัน คือไม่ได้ทำ ณ เวลานี้ พอผ่านมา 3-4 ปี เขาค่อยมารู้สึกว่าไม่ได้ยิน เพราะว่าแก้วหูทะลุ เลยทำให้ต้องใช้เครื่องช่วยฟัง ซึ่งต้องใช้ไปตลอดชีวิต ต่อให้ผ่าตัดก็ตาม"
หลายคนชื่นชมว่าเราดูแลครอบครัวดี ?
"ขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะ ที่ส่งกำลังใจมาให้ เรารู้สึกว่าพอมีเรื่องที่มันหนักๆ เพราะทุกปีจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่างกับเรา แล้วทุกคนก็จะมาให้กำลังใจ ไม่รู้จะขอบคุณหรือตอบแทนยังไงก็อยากจะบอกว่าเราจะเป็นศิลปินนักแสดงและยูทูบเบอร์แบบนี้ตลอดไป แล้วถ้ามีโอกาสได้เจอหรือได้ตอบแทนอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ยินดีมากค่ะ"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.