คุยกับ ALIZ ถึงการเริ่มต้นพร้อม "สมาชิกใหม่" และ "อัลบั้ม 2" หลังเจอเรื่องชวนเสียศูนย์!

หลังจากเปิดตัวในฐานะวงดนตรีหญิงล้วน All-Star วง ALIZ ที่มาพร้อมสมาชิกอย่าง น้ำ-กัญญ์กุลณัช ปัญญากิตตินันท์ (ร้องนำ), ลูกหวาย-ปลายฟ้า ชาญกล (กีตาร์) และ ตาล-ชนิษฐา โลจนานนท์ (กลอง) ได้เจอกับการขึ้นลงทางอาชีพ เพราะแม้จะมีผลงานและแฟนเพลง แต่พวกเธอมีการเปลี่ยนสมาชิก การทำงานที่ค้นหาตัวเองหลายปีกว่าจะปิดอัลบั้ม รวมถึงการที่โควิด-19 ทำให้พวกเธอหยุดงานนาน 

และล่าสุดทางวงได้มือเบส บุ๊ค-อำไพพรรณ สุธิราธิกุล มาร่วมวง และได้เริ่มลุยงานอัลบั้มใหม่ เริ่มจากเพลง “ทำให้รักแต่ไม่รัก” ที่มาพร้อมซาวด์ใหม่ พร้อมตารางงานที่เริ่มกลับมาแอคทีฟ ทำให้ Sanook ตัดสินใจมาคุยกับพวกเธอทั้ง 4 ถึงเส้นทางที่ผ่านมา และอนาคตข้างหน้า

เพลง “ทำให้รักแต่ไม่รัก” มีเนื้อหาอย่างไร

น้ำ : ก็เริ่มจากน้ำก่อน เพราะน้ำอยากเล่าเรื่องนี้ ก็ต้องมีคอนเทนต์มาก่อน น้ำเป็นคนเริ่มคอนเทนต์ มีพี่ที่รู้จักมีอาการนี้ คือคนข้างๆ อยู่ คือเขาก็รู้ว่าพี่เรารู้สึกดีแต่ แต่พี่เขาก็ไม่ได้ให้อะไรความรักแบบนั้นคืนมา แต่พอพี่เขาหาทางไปทางอื่น ก็จะกลับมาหยอด แบบ “หายไปไหน”, “ไปดูหนังกันไหม” แบบทำทุกอย่างเหมือนแฟนแต่ไม่เคยเป็นมากกว่านั้นค่ะ เป็นสถานการณ์ที่คนยุคนี้เป็นกันเยอะค่ะ 

แล้วพาร์ทดนตรีเป็นอย่างไร 

น้ำ-ตาล : เพลงนี้เราได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ใหม่ พี่ตี๋ Mr.Arranger และพี่ Henry Watkins เป็นคนมาสเตอร์ซาวด์ ก็มีความแปลกใหม่ในพาร์ทดนตรี ซาวด์ใหม่ๆ จากการมิกซ์ที่แปลกใหม่ เราชอบแบบเก่าและใหม่ แบบเก่าจะเป็นแบบ ALIZ ส่วนแบบใหม่จะมีความเป็นป็อปขึ้นมาหน่อย อะไรอย่างงี้ค่ะ

น้ำ ALIZ

เวลาที่ศิลปินลองอะไรใหม่ๆ ก็จะมีฟีดแบคหลายแบบ เราเจออย่างไรบ้าง

น้ำ : เพลงนี้เขามีปัญหากันน้อยนะคะ เทียบกับเพลงอื่นๆ มีปัญหาน้อยกว่า เหมือนการทำงานอัลบั้มที่ผ่านมาเราเรียนรู้ว่าจะไปแบบไหน ก็จะมีอันที่ถูกใจทั้งคนฟัง และไม่ถูกใจก็มีการผสมผสานมากขึ้น สำหรับคนฟังและเราค่ะ 

บุ๊ค มาร่วมงานในฐานะสมาชิก ALIZ ได้อย่างไร 

บุ๊ค : ที่วงเขามีเปิดรับสมาชิกใหม่ ก็เลยสนใจและเข้ามา ก็มีเงื่อนไขให้แพทเทิร์นของกลองมา 3 แบบ และให้เล่นเพลงของวง ก็ส่งเข้าร่วม สรุปเราก็เป็นผู้โชคดี ก็ละลายพฤติกรรมได้รวดเร็วมากค่ะ

บุ๊ค ALIZ

รีวิว 4 ปีแรกของ ALIZ ที่ผ่านอะไรมามากมายหน่อย

ลูกหวาย : จริงๆ วงของเราทำงานกันมาแค่ปีเดียว เพราะตอนโควิด-19 เราแยกย้ายกันไปนอน (หัวเราะ) ก็คือรู้จักกันมากขึ้น ได้ทำงาน แต่โควิด-19 ก็กินเวลาทำให้พลาดโอกาสไปอยู่ค่ะ

น้ำ : มันก็เป็นสเต็ปที่ไม่ใช่แค่เราเจอ ทุกคนก็เจอ 4 ปีแล้ว ถ้าพูดตรงๆ เราก็จะรู้ว่าแต่ละวงก็มีสัญญาการทำงานอยู่ 5 ปี หรือ 3-4 ปี ก็เอาแค่เรื่องสัญญาก็ตื่นเต้นว่าเราอยู่มาครบสัญญา ก็แฮปปี้ที่อยู่ด้วยกันค่ะ 

แล้วช่วงที่กลับมาทำงาน เราจูนกันนานไหม 

น้ำ : มันมีความเศร้าอยู่นะที่เราไม่ได้ขึ้นเวทีด้วยกันบ่อยๆ ค่ะ เหมือนต้องเรียนซ้ำ หายไป ลืม และกลับมาเรียนซ้ำ ดังนั้นอะไรที่เราเจอบนเวทีเราต้องทำใหม่เรื่อยๆ บางทีเหนื่อยๆ ก็อยากให้จ้างเราเยอะๆ นะคะ จะได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ (หัวเราะ) 

ลูกหวาย ALIZ

ALIZ มีโมเมนต์หน้าเวทีที่ประทับใจอะไรบ้าง  

ตาล : ของหนูมีตีแล้วแว่นหลุด ลอยวิ้วไปเลย! แว่นลอยออกมา เป็นเพลงช้าแต่แว่นลอยค่ะ 

น้ำ : เราเป็นวงหญิงล้วน ก็จะมีชายหนุ่มมาบ้าง แต่เขาไม่ได้น่ากลัวหรือคุกคามบนเวที ส่วนน้ำเป็นคนดุ ถ้ามีอะไรเกินเลยจะไม่ยอมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเล่นอยู่ หรือไม่เล่นอยู่ค่ะ ก็ไม่ค่อยห่วงตัวเอง เพราะตัวเองเป็นคนสู้ค่ะ แล้วเราก็ดูแลเพื่อนๆ ในวง ก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าห่วง เพราะสู้ค่ะ 

ตาล ALIZ

แล้วเราดูแลตัวเองอย่างไร เพราะการแสดงทุกครั้งวงก็เต็มที่ โดยเฉพาะตาล

ALIZ : ตาลไม่ได้ดูแลหลังค่ะ แต่ทุกคนดูแลหลังให้ตาล ตอนนี้คือรอผ่าค่ะ (หัวเราะ) 

ตาล : คือพอรู้ว่ามีปัญหาหลัง ทางค่ายและพี่ๆ จะรู้ว่าเรายกอันนั้นอันนี้ไม่ได้ ก็จะมีคนช่วยยกให้อะไรแบบนี้ ขอบคุณมากค่ะ เหมือนเตรียมซัพพอร์ตด้วย 

น้ำ : เสียงไม่มีปัญหาเพราะงานไม่เยอะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเยอะอาจมีปัญหาเพราะน้ำไม่ได้เก็บแบบนั้นค่ะ ไม่ได้อั้น และเพลงแรง ก็ตอนนี้วีคบายวีคอยู่ แต่ถ้าติดๆ กันก็ไม่รู้ว่าจะยังไง ก่อนหน้านี้ก็มีช่วงโควิด-19 ที่งานเยอะๆ ก็เกือบไม่ไหว แต่ไหวอยู่ ได้นอนก็ดีขึ้นค่ะ เป็นคนทำมาหากินดุเดือดค่ะ 

ALIZ จะมีอะไรให้ติดตามหลังจากนี้

น้ำ : ยังไม่หลุดจากแนวเดิม แต่คิดว่าคงสนุกมากขึ้น คิดว่าอยากได้เพลงสมหวัง เพราะที่ผ่านมาอกหักมาตลอด ทั้งที่เราเป็นคนสวยค่ะ (หัวเราะ) 

สุดท้ายอยากให้แฟนๆ จดจำ ALIZ แบบไหน 

ตาล : อยากให้เขาจดจำว่าเราเป็นตำนาน ตำนานที่ยังไม่ตายค่ะ (หัวเราะ) 

ลูกหวาย : เป็นดนตรีผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาค่ะ 

บุ้ค : ในฐานะนักดนตรีที่หน้าตาสวยค่ะ ก็ใครมันจะรวมตัวได้ สวยแบบนี้เล่นเก่งแบบนี้ค่ะ (หัวเราะ) ก็อยากให้พูดถึงวงดนตรีหญิงแล้วนึกถึงเราค่ะ แค่นี้เลยค่ะ 

Photo : Thanapol W.