รู้ก่อนซื้อ! BANPU สตอรี่แน่น แต่ระวังความเสี่ยง
"บริษัท บ้านปู จํากัด (มหาชน) หรือ BANPU" ภายใต้การนำทัพโดย "สินนท์ ว่องกุศลกิจ" ล่าสุดคือการนำบริษัทย่อย "BKV Corporation (BKV)" เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จํานวน 15 ล้านหุ้น ช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 19 - 21 เหรียญสหรัฐฯต่อหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนใน New York Stock Exchange (NYSE)
การซื้อขายในตลาด NYSE ทางผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (underwriters) มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่ม จำนวน 2.25 ล้านหุ้นจาก BKV ภายในระยะเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันแรกที่หุ้นสามัญของ BKV เริ่มทําการซื้อขายที่ราคาเสนอขาย IPO โดยหักส่วนลดและค่าคอมมิชชั่นของ underwriters แล้ว
"BKV" ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ตั้งอยู่เมืองเดนเวอร์ เมืองหลวงของรัฐโคโลราโด เป็นบริษัทผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติที่มีความครบวงจร ทั้งดำเนินงานเอง และผ่านการลงทุน อาทิ ธุรกิจท่อก๊าซ, โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ(Temple I & II), โครงการกักเก็บคาร์บอน (CCS) เป็นต้น ซึ่ง BKV เป็น 1 ใน 20 บริษัทผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา (US) และเป็นผู้ผลิตก๊าซฯรายใหญ่ที่สุดในแหล่งก๊าซฯบาร์เน็ต (Barnett Shale) รัฐเท็กซัส โดยก่อน IPO ทาง BKV มีจำนวนหุ้น 66.3 ล้านหุ้น (พาร์ 0.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) โดย BANPU ถือหุ้น 96.4% แต่ภายหลังขายหุ้น IPO คาดสัดส่วนการถือหุ้นของ BANPU จะลดลงเหลือ 81.6% โดย BKV รายงานขาดทุนสุทธิ USD98mn ในงวดครึ่งแรกของปี2567 เทียบกับกำไร USD61mn ในงวดครึ่งแรกของปี 2566 และมีสินทรัพย์ทั้งหมด USD2.2bn ในช่วงครึ่งแรกของปี2567
BKV ปลดล็อกมูลค่า ?
บล.หยวนต้า มองว่า มูลค่าราคาตลาดหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO จะอยู่ในช่วง 1.5 - 1.7 พันล้านเหรียญฯ หรือราว 5.1 – 5.7 หมื่นล้านบาท ถือว่าต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้า เนื่องจากราคาขาย IPO มักมีส่วนลดจากราคาพื้นฐาน 20-30% และราคาก๊าซธรรมชาติปัจจุบันอยู่ระดับไม่สูงมากนัก แต่ข่าวความคืบหน้าดังกล่าวเป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้น BANPU เนื่องจากราคา IPO ช่วง 19 – 21 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น จะคิดเป็น NAV ต่อหุ้น BANPU สูงถึงราว 3.4 –3.7 บาท/หุ้น (ให้ Discount Holding 20%) เทียบกับราคากระดานล่าสุดที่ 6.25 บาท/หุ้น (สัดส่วน 54-59%) ซึ่งช่วยให้ตลาดเห็นมูลค่าธุรกิจ BKV ได้ชัดเจนมากขึ้น
อีกทั้ง BKV จะสามารถระดมทุนจาก IPO ครั้งนี้ได้ราว 300 ล้านเหรียญฯ หรือราว 10,000 ล้านบาท ช่วยให้ฐานะการเงินมั่นคงขึ้น (ปัจจุบันมี Net Debt ราว 350 ล้านเหรียญฯ) และสามารถจ่ายคืนเงินกู้ยืมบริษัทแม่ (Sponsor Loan) เบื้องต้นคาดราว 50 ล้านเหรียญฯ และ BKV จะสามารถเร่งลงทุนสร้างการเติบโตได้ด้วยตนเอง คล่องตัวมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาบริษัทแม่ โดยเฉพาะการขยายลงทุนโครงการ CCUS ที่กำลังมีการเติบโตสูง
ดังนั้นจึงคงคำแนะนำ TRADING ด้วยมุมมองที่เป็นบวก ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ที่ 7 บาท อ้างอิง PBV -1.5 SD จากค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 0.5 เท่า (คงเดิม) เชื่อว่าความคืบหน้าการนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลาดจะเป็น Catalyst หนุนราคาหุ้น BANPU ช่วงที่เหลือของปีให้สูงขึ้นจากปัจจุบันที่ซื้อขายบน PBV ไม่ถึง 0.5 เท่า อีกทั้งมองข้ามไปช่วงไตรมาส 4/67ถึงไตรมาส 1/68 หุ้นมีปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ High Season ของการใช้พลังงานในฤดูหนาว ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเร่งตัวขึ้น
"BANPU มี Market Cap เพิ่มขึ้นเป็น 6.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้มีโอกาสกลับเข้าสู่ดัชนี SET50 รอบครึ่งแรกของปี 2568 ที่จะประกาศช่วงกลางเดือน ธ.ค.2567 เป็นปัจจัยหนุน หากราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องขึ้นไปเกิน 7 บาท จะมีโอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนีสูงขึ้น และคาดว่าระดับที่ 9-10 บาท มีโอกาสกลับเข้าสู่ดัชนี MSCI ได้"
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) เชื่อว่าการขาย IPO ของ BKV จะช่วยปลดล็อกมูลค่าของบริษัทและเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท ซึ่งปัจจุบันถูกกดดันจากราคาขายเฉลี่ยก๊าซฯที่ลดลง YoY ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 5 พันล้านบาท เทียบกับ 5.4 พันล้านบาทในปี 2566 โดยคาดปริมาณขายถ่านหินสูงขึ้นช่วยชดเชยราคาขายเฉลี่ยก๊าซฯและถ่านหินที่อ่อนตัว และคงคำแนะนำ "ถือ" ที่ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 4.50 บาท อิงวิธี SOTP
บล.ฟิลลิป ระบุเช่นกันว่า การ IPO นี้จะส่งผลบวกต่อ BANPU โดยคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าหุ้นของ BANPU จากการรับรู้มูลค่าตลาดที่แท้จริงของ BKV และทางฝ่ายมองเป็น upside สำหรับหุ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และราคาก๊าซช่วงปลายปีจะมีปัจจัยฤดูกาลช่วยหนุน โดย Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 5.99 บาท
สิ่งที่ต้องระวัง!
ความผันผวนของราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งในไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซันของความต้องการใช้ถ่านหินและก๊าซฯส่งผลให้ราคาพลังงานไม่สูง อีกทั้งค่าเงินบาทหากแข็งค่าอาจขาดทุน FX
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส มองว่าการนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลาด NYSE ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประมาณการทางด้านปัจจัยพื้นฐาน เพราะเป็นไปตามกระบวนการได้เงินจาก IPO มาคืนหนี้ ส่วนของ BANPU ก็ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงไป แต่อาจถือเป็นสีสันในช่วงสั้นที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นบริษัทแม่เช่น BANPU มีการตื่นตัวตามบริษัทลูกที่เข้าจดทะเบียน
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไร 2567 สะท้อนงบ 1H67 ที่ย่ำแย่กว่าคาด ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานปี 2567 ใหม่อยู่ที่ 5.8 บาทต่อหุ้น (เดิม 7 บาท) ราคาหุ้นปรับฐานสะท้อนปัจจัยกระทบต่างๆจนมี DOWNSIDE ที่จำกัดแล้วระดับหนึ่ง ประกอบกับคาดหวังผลบวกจากการเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลในช่วงปลายปี แนะนำหาจังหวะเข้า TRADING ช่วงสั้นๆเป็นรอบๆตามทิศทางราคาถ่านหินและก๊าซฯที่เปลี่ยนแปลงไปได้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.