“TDRI ห่วงปมนักร้องสอยนายกฯ ทำรัฐบาลใหม่ “อายุสั้น"
หลักจากที่รอมานาน วันนี้(4ก.ย.67) ไทยได้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศเสียที ซึ่งนอกจากภาคเอกชนที่รอคอยการจัดตั้งรัฐบาล และพร้อมส่งข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลใหม่แล้ว ฝากฝั่งนักวิชาการ ก็มีข้อเสนอรวมถึงโจทย์ ฝากฝังถึงรัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการด้วยเช่นกัน
โดย ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจาก สถาบันการวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวภายหลังเห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่ ภายใต้รัฐบาล ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร (ครม.อิ๊งค์1/1) ว่า เรื่องแรกมีความเป็นห่วงรัฐบาลใหม่ว่าจะมีอายุสั้น เนื่องจากกังวลว่า นายกฯ จะโดนร้องเรียนในปมต่างๆ ที่ส่งผลให้ต้องหลุดจากความเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการบริหารประเทศ และความเชื่อมั่น ย่อมส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคตให้สะดุดลง
ส่วนเรื่องที่ 2 ที่มีผลต่ออายุการทำงานของรัฐบาล เป็นเรื่องของการทำงาน คือ คิดว่าการทำงานมันทำกันเป็นทีม จึงขึ้นอยู่กับว่าทีม ที่เข้ามาทำนั้นแข็งขนาดไหน การเมืองที่ต้องอาศัยการรวมเสียงเล็กๆ ทำให้ต้องกระจายเก้าอี้กันมาก ผลงานก็จะทำได้ดีระดับนึงเท่านั้น ซึ่งในเรื่องของเสถียรภาพ มองว่าถ้านายกฯไม่โดนร้องก็น่าจะอยู่กันยาวๆ เพราะเลือกตั้งรอบหน้าไม่รู้จะออกมายังไงก็คงอยู่กันไป สลับครม. กันไป
“หากเป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะมีรัฐบาลรักษาการในแต่ละตำแหน่ง แต่ก็เป็นการดำเนินการเฉพาะหน้าและเท่าที่จำเป็น เรื่องสำคัญๆ ใหญ่ๆ ก็จะรอรัฐมนตรีใหม่เข้ามา ดังนั้นการขับเคลื่อนงานพอไปได้ แต่ส่วนที่สำคัญๆก็จะเกิดความล่าช้าส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยแน่นอน ซึ่งต้องติดตามว่ารัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน กับการทำได้ดีแค่ไหน สิ่งที่กังวลใจคือ จะโดนนักร้องสอยก่อนรึเปล่าซึ่งเดาได้อยาก” ดร.นณริฏ กล่าว
ส่วน การกลับมาของ นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง และรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ รวมถึงนาย จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ซึ่งเป็นรัฐมนตรีชุดเดิมทั้งหมดของพรรคเพื่อไทยนั้นมองว่า เพื่อเข้ามาสานต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายเรือธง ที่ต้องทำให้ได้ของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม อยากขอฝาก 2 นโยบายเร่งด่วน ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ คือ
1.การแก้หนี้ครัวเรือน โดยออกเป็นมาตรการเร่งด่วย เพราะปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยถือเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจที่สำคัญในขณะนี้
2.ขอให้ทบทวนการแจกเงินในโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต คือ โดยแจกให้เฉพาะกลุ่มเปราะบางจำนวน 14 ล้านคนเท่านั้น โดยนำงบประมาณที่เหลือมาคืนให้กับโรงการต่างๆที่จำเป็นมาใช้ในการปรับโครงสร้างให้กับเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะสร้างความเติบโตระยะยาวให้กับเศรษฐกิจไทยได้มากกว่า
“อยากให้ยุติแจกเงินดิจิทัลในเฟส 2 และ 3 เนื่องจากเฟสที่ 1 ได้แจกคนถือบัตรสวัสดิการไปแล้ว ซึ่งจากตัวเลทางเศรษฐกิจ บ่งชี้ว่า เพียงพอกับเกิดการกระตุ้นแล้ว โดยผลกระทบที่น่ากังวลใจ คือ การกันเงินงบประมาณจากกิจกรรมอื่นๆ มาใช้ ทำให้การขับเคลื่อนงานต่างๆ ซึ่งทำได้ยากเพราะถูกตัดงบให้น้อยลง เงินที่เหลือก็คืนงบให้โครงการต่างๆไปดำเนินการ และบางส่วนเอามาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว พร้อมกับเร่งแก้หนี้” ดร.นณริฏ กล่าว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.